“นายกฯ” ขอบคุณปชช.ร่วมแก้ปมฝุ่น-ไฟป่า ส่งผลภาคเหนือดีขึ้น เผยทำนส.ประขอความร่วมมือลาว-เมียนมา พร้อมสั่งระมัดระวังพื้นที่เสี่ยงอันตราย เมื่อวันที่ 9 เม.ย.เวลา 13.10 น.วันที่ 9 เม.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงการแก้ไขปัญหาปัญหาฝุ่นละออง หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ว่า ตนได้รับรายงานทุกวันสถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งสถานการณ์ขึ้นลงตามสถานการณ์นอกประเทศด้วย วันนี้ตนได้ทำหนังสือไปถึงประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ทั้งสปป.ลาว เมียนมา ให้แก้ปัญหาตรงนี้ ทหารกับทหารก็ติดต่อกัน ระดับพื้นที่ก็ติดต่อกันมีการหารือกับเจ้าหน้าที่เมียนมา และมอบอุปกรณ์ทำงานร่วมกัน เพราะแก้ปัญหาทำเพียงประเทศเดียวก็แก้ไม่ได้ เพราะมาจากข้างนอกด้วย ก็ต้องช่วยกัน ส่ิงสำคัญคืออยากจะฝากขอบคุณประชาชนทุกจังหวัดที่ช่วยกัน และรับมาตรการที่ตนสั่งการไป ดำเนินการไปอย่างดีที่สุด และขอให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยให้มากที่สุด นายกฯกล่าวว่า ในสถานที่จริงถ้าใครไม่เคยเข้าไปจะไม่รู้ว่าลำบากแค่ไหน ดังนั้นก็ขอให้ระมัดระวังกันด้วย บางพื้นที่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกองทัพบก นำเจ้าหน้าที่ลงไปในจุดที่เกิดไฟไหม้และนำน้ำเข้าไปดับ และได้แนะนำไปว่าพื้นที่ไฟไหม้เยอะ เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ได้เพราะอันตราย ให้ใช้วิธีสร้างแนวกันไฟแทน และขอบคุณหลายหมู่บ้านที่ตั้งอาสาสมัครขึ้นมาช่วย ส่วนคนที่จุดไฟก็ต้องถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว เพราะถือว่าไม่ถูกกฎหมาย แต่บางทีเจ้าหน้าที่จุดตามหลักวิชาการคือ จุดดักหน้าเพื่อไม่ให้ลามเข้ามาในหมู่บ้าน ตรงนี้ต้องแยกแยะให้ออก เขาสอบสวนได้ไม่ต้องกังวล เท่าที่ทราบแนวโน้มดีขึ้น อย่างปฏิบัติฝนหลวงบินขึ้นทำทุกวันถ้าความชื้นเหมาะสม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้อย่างเกษตรกรรมการเข้าไปรับซื้อผลผลิตในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้องที่บุกรุก ได้กำชับไปแล้วขอความร่วมบริษัทไปแล้ว ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่กล้าแตะต้อง จะไม่กล้าได้อย่างไร รัฐบาลก็ทำแบบนี้แหละ กำชับไปแล้ว อนาคตต้องเดินหน้าไปสู่สินค้าจีไอ ต้องตรวจสอบเป็นสินค้ามาจากพื้นที่ไหน ผิดหรือถูกกฎหมาย