“ชวน”ตีปาก “ถาวร”ตะแบงอยากร่วมรัฐบาลมาก อ้างมติพรรค ย้ำ "ประชาธิปัตย์"ต้องมีจุดยืน ยึดมั่นหลักการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่าสับสน ขอทุกคนนึกถึงบุญคุณประเทศนี้              เมื่อวันที่ 6 เม.ย.เวลา 08.00 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทำพิธีทางศาสนาอิสลาม เนื่องในวันครบรอบ 73 ปีการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าว กับสมาชิกที่นับถือศาสนาอิสลาม โดย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อเช้าตนได้รับโทรศัพท์จากมหาวิทยาลัยสงขลา วิทยาเขตปัตตานี ว่าเมื่อวาน(5 เม.ย.) เขามีมติร่วมรัฐบาลกันแล้วหรือ ตนจึงบอกไปว่าบอกเป็นเรื่องของคณะนายถาวร เสนเนียม ว่าที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ท่านเชิญตนไปฟัง ตนเลยไปนั่งฟัง ก็มีคนบางกลุ่มที่เอาเรื่องนี้ไปพูด ซึ่งจริงๆแล้วได้ขอร้องว่า ควรให้ความเคารพกับคณะกรรมการบริหารพรรค ให้เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่  แต่ห้ามไม่ค่อยฟัง ไม่แน่ใจและไม่ทราบว่าเพราะอะไร ถึงต้องตะแบง “ ขอเรียนว่า เรื่องนี้ยังไม่มีมติ เพราะต้องให้เกียรติกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะต้องพิจารณาต่อไป ส่วนคนอยากเป็นนั้นมี รวมถึงคนไม่อยากเป็นก็มี ซึ่งถือเป็นประชาธิปไตยที่น่ารัก แต่ห้ามกันไม่ค่อยฟัง ว่าอย่าเพิ่งไปบอกอะไรเลย  ขออย่าไปให้ความเห็นอะไรเลย รอให้กรรมการบริหารพรรคเขาได้ประชุมและตัดสินใจกันไม่ดีกว่าหรือ อาจจะเป็นความอยากเป็นมาก ก็เลยทำให้พูดออกไปเช่นนั้น จึงอยากเรียนให้ทราบว่ายังไม่มี ดังนั้นอย่าเพิ่งไปวิจารณ์ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพราะจริงๆแล้วยังไม่มีมติ”นายชวน กล่าว นายชวน กล่าวต่อว่า เมื่อวาน(5 เม.ย.)ตนนั่งฟังอยู่ด้วย ซึ่งก็ดีที่มีอะไรแล้วมาพูดกันข้างในมากกว่าจะไปพูดกันข้างนอก  จึงทำให้ทราบถึงความรู้สึกของคนที่มีทั้งสอบได้และสอบตก ซึ่งก็เห็นใจเขาเพราะคนเล่นการเมืองไม่มีใครอยากสอบตก อย่างดีก็เกือบตกคือสอบได้ แต่ครั้งนี้หลายคนเกือบได้ จึงทำให้เสียโอกาสไป อย่างไรก็ตามพรรคก็ต้องเป็นหลัก  ดังนั้นพวกเราไม่ต้องไปกังวล ตนเข้ามาพรรคเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ซึ่งคนรุ่นเดียวกันที่อยู่ในพรรค ตอนนี้เหลือตนคนเดียวแล้ว  ซึ่งจำเหตุการณ์ในอดีตได้มากพอสมควร จึงอยากให้ทุกคนทราบว่า เราเจอปัญหานี้เยอะ แต่พรรคก็ต้องพัฒนาไปข้างหน้า  แต่ต้องไม่ลืมอดีต ต้องยึดมั่นในหลักของบ้านเมือง ประเทศนี้เราตัดสินใจเลือกการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อเราตัดสินใจแล้วก็ไม่ควรจะสับสนเรื่องนี้อีกแล้ว แต่ถ้าจะสับสนเรื่องอื่นก็ว่ากันไป แต่ระบอบการปกครองต้องชัดเจน และแต่ละพรรคการเมืองที่สู้กัน ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่มีประเทศไหนในโลก ที่ให้สิทธิชาวมุสลิมมากกว่าประเทศไทย เช่นเดียวกับที่ให้สิทธิ์คนที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย ดังนั้นคนที่ได้โอกาสต้องคิดถึงบุญคุณประเทศนี้เหมือนกัน นายชวน กล่าวต่อว่า ตนพยายามทำงานตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.ถึงวันที่ 23 มี.ค. พยายามไม่หยุดเพราะรู้ว่ามีปัญหาอยู่หลายเรื่อง  จึงพยายามหาเสียงในทุกภาคเพื่อให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ได้มากที่สุด แต่ว่าเพียงวูบเดียวของความเปลี่ยนแปลง ทัศนคติ ความเห็น กระแส ซึ่งทำให้พวกเราแปลกใจว่าทำไมเป็นอย่างนั้น ทำไมเป็นอย่างนี้ แต่นี่คือชีวิตจริง ย่อมมีวูบวาบอย่างนี้  ดังนั้นเราต้องมีหลักอยู่ตลอดเวลา อย่าไปวอกแวก ต้องยึดมั่นในแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ส่วนแนวทางการเมืองและนโยบายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่หลักของการปกครองนั้นพรรคนี้มีความแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลงขอให้ทุกคนมั่นใจได้ ด้านนายจุรินทร์  กล่าวว่า วันนี้วันที่ 6 เม.ย.เป็นวันมงคลอย่างยิ่ง อย่างน้อย 3 เรื่อง คือ1.วันจักรี ซึ่งทุกท่านทราบดีว่ามีความสำคัญกับประเทศอย่างไร 2.เป็นวันเริ่มต้นงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในหลวงรัชกาลที่ 10 และ3.เป็นวันครบรอบการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ตนในนามพรรคประชาธิปัตย์ขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ที่เหน็ดเหนื่อยเป็นพิเศษสำหรับการเลือกตั้งที่ผ่านมา และขอบขอบคุณนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ที่เหน็ดเหนื่อยไม่แพ้กัน รวมถึงกรรมการบริหารพรรค ตลอดจนผู้ใหญ่ สมาชิก และผู้สมัครส.ส.ทุกคน  ที่ให้เราผ่านพ้นการเลือกตั้งครั้งมาได้ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรถือเป็นเรื่องปกติ นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นแค่สถานการณ์หนึ่งบนเส้นทางอันยาวไกลของพรรคประชาธิปัตย์ที่เรายังต้องเดินไปข้างหน้าต่อไปอย่างไม่มีวันหยุดยั้ง ที่ผ่านมาเราเคยประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง และเคยได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนน้อย โดยเมื่อปี 2522 ส.ส.ของพรรคหายไปเกินกว่าครึ่ง กระทั่งมาถึงปี 2529 ข้ามาถึงปี 2531 ส.ส.ของพรรคเหลือเพียง 48 คน แม้ส.ส.ของเราจะหายไปเท่าไหร่ แต่การเลือกตั้งครั้งต่อๆมา เราสามารถได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งจนได้กลับมาเป็นรัฐบาล และได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอีกหลายครั้งพรรคประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 7 คน มีความเจริญรุ่งเรืองมาตามลำดับ ก็คงเหมือนกับชีวิตมนุษย์ที่มีขึ้นมีลง แต่ทุกท่านได้สร้างคุณูปการให้กับพรรคจนเติบโตมาถึงทุกวันนี้ แล้วยังจะต้องมีวันข้างหน้าอีก ประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคที่มีจุดแข็ง เรามีทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต เรามีคนทุกรุ่นที่จะเป็นกำลังสำคัญ เป็นแนวร่วมที่จะนำพาพรรคฟันฝ่าให้ก้าวไปข้างหน้าได้ รวมถึงมีความคิดสร้างสรรค์ที่มีความหลากหลาย มีบุคลากรที่มีศักยภาพ พร้อมนำพาพรรครับใช้ประชาชน และประเทศ ให้มีความเจริญก้าวหน้าภายใต้จุดหลอมรวมเดียวกันนั้นคืออุดมการณ์ของพรรค และความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน “ผมยังเชื่อมั่นว่าประชาชนยังรักเรา และผมมั่นใจว่าประชาชนยังพร้อมให้โอกาสเรา ขออย่างเดียวว่าเราทุกคนอย่าท้อแท้ อย่าท้อถอยหรือหมดกำลังใจ ขอให้มาร่วมมือร่วมใจกัน ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถนำพาพรรคประชาธิปัตย์ไปนั่งอยู่ในหัวใจของประชาชนได้อีกครั้งในระยะเวลาไม่นาน”นายจุรินทร์ กล่าว ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานบุญของพรรคประชาธิปัตย์ครบรอบ 73 ปี ตนขอให้กำลังใจทุกคน ถ้าย้อนกลับไปดูในช่วง 70 กว่าปีที่ผ่านมาจะพบว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเดียวที่อยู่คู่กับประเทศ และประชาชนชาวไทย เพราะเรามีความเป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ได้ยึดติดอยู่กับตัวบุคคลหรือสถานการณ์ แต่ยึดติดกับอุดมการณ์ ซึ่งประกาศเอาไว้ตั้งแต่ปี 2489 ตนยังมั่นใจว่าอุดมการณ์ของพรรคจะยังเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า รวมถึงยังเป็นสิ่งที่ใช้ได้สำหรับสังคมไทย และประเทศไทยที่ปัจจุบันมีความท้าทายหลายเรื่อง รวมถึงปัญหาการเมืองที่มักพูดกันอยู่ในปัจจุบัน แต่พรรคประชาธิปัตย์ที่ก่อตั้งขึ้นมาและยังดำรงคงอยู่ได้ทุกวันนี้ก็ด้วยการเคารพสิทธิพื้นฐานของประชาชนทุกกลุ่ม ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคก็มีความหลากหลาย ทั้งในแง่ของศาสนา ภูมิลำเนา ทำให้พรรคของเราเป็นพรรคของคนทุกรุ่น ทุกภาค อย่างแท้จริง “ถ้าเรายังดำรงตรงนี้ได้และร่วมกันเดินหน้าต่อไปด้วยความแน่วแน่ และความมั่นคงในอุดมการณ์ผมก็มั่นใจได้ว่าด้วยวันข้างหน้าพรรคจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากกว่านี้ ผมขอขอบคุณอีกครั้งตลอดทุกช่วงเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้รับการสนับสนุนและกำลังใจอย่างดียิ่งจากทุกคน ผมขอให้ทุกคนมั่นใจว่าสิ่งที่ได้ยึดถือ ยึดมั่นกันมา และทำให้พรรคของเราดำรงอยู่ได้ทุกวันนี้จะเป็นกำลังสำคัญให้เราสามารถที่จะเดินต่อไปข้างหน้าได้”อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว