เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 5 เม.ย.62 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ว่า ในรัฐธรรมนูญปัจจุบันไม่มีเรื่องการเข้าชื่อถอดถอนบุคคลไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือตำแหน่งใดก็ตามไม่มีอีกแล้ว ไม่ว่าจะร้องอย่างไรก็ตามเพียงแค่เข้าชื่อได้ 5-30 คนก็สามารถเข้าชื่อร้องได้แล้ว และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จะพิจารณาเองว่ามีมูลความผิดหรือไม่ และจะดำเนินการต่อหรือไม่ หากดำเนินการต่อเมื่อพิจารณาแล้วก็จะส่งไปที่อัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้อง ต้องทำอย่างนี้เป็นไปตามขั้นตอนไม่ว่าจะเป็น. ผบ.ทบ. กกต. หรือใครก็ตาม ทำแบบนี้อย่างเดียวกัน ซึ่งระบบการเข้าชื่อเขียนอยู่ในมาตราด้วยที่ตนบอกไป คือ เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ม.234(2) ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2561 ม.28(2) และ ม.32(1) บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ป.ป.ช.มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐใด กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฯลฯ ประชาชนสามารถร้องเรียนเพื่อให้ ป.ป.ช.สอบสวนหรือไต่สวนได้ เพื่อนำไปสู่การเสนอมาตรการ ความเห็น และข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี ให้ปรับปรุงการปฏิบัติราชการของหน่วยงานรัฐ แต่การเข้าชื่อยื่นป.ป.ช.นั้นจะนำไปสู่กระบวนการเพื่อให้ป.ป.ช.ไปตรวจสอบต่อแล้วนำฟ้องศาลฎีกา ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วการล่าชื่อถอดถอน กกจ. ผบ.ทบ. ในปัจจุบันนี้จะมีผลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า "ผมขอใช้คำนี้อีกครั้งหนึ่ง ก็มีผลแค่เพียงจิตวิทยาเท่านั้น ไม่ทำให้เกิเหตุอะไรโดยตรง" "ผมตอบเป็นหลักการไม่ได้ตอบถึงกรณีของใครโดยเฉพาะ ทั้งนี้การยื่นป.ป.ช.นั้นมีข้อหาได้หลายยข้อหาไม่ใช่แค่กรณีทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดว่า ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ม.234 หรือให้เปิดย้อนไป ม.233,232,231 ทั้งนี้กระบวนการของรัฐธรรมนูญใหม่ไม่เหมือนรัฐธรรมนุญเก่าที่เราอาจเคยชิน เขียนต่างกัน" นายวิษณุ กล่าว