"อุดม" แจงระบบคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อตีความได้สองแบบ โยน “กกต.” ตัดสิน คิดคำนวณจากทุกพรรคหรือ เลือกเฉพาะพรรคที่ได้ส.ส.เขต ยันเจตนารมณ์กรธ.ทุกคะแนนไม่ทิ้งน้ำ แนะส่ง “ศร.” ตีความหากไม่ได้ข้อยุติ วันที่ 4 เม.ย. - นายอุดม รัฐอมฤต กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงปัญหาการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อกรณีโอเวอร์แฮงค์ ว่า กฎหมายที่มีอยู่ได้พยายามอธิบายว่าจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งต้องคิดอัตราส่วนโอเวอร์แฮงค์ออกมา แต่ก็ต้องดูว่าจะคิดเฉพาะพรรคที่ได้ส.ส.เขตไปแล้วเท่านั้นหรือไม่ ถ้าคิดแบบนี้มันก็จะมีพรรคอยู่แค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่ก็คิดได้ หรือจะคิดแบบนับคะแนนจากทุกพรรค มันมีวิธีคิดอยู่แค่สองวิธี แต่ของกรธ.เรายืนยันว่าต้องคิดคะแนนจากทุกพรรค ไม่ได้คิดเฉพาะพรรคที่ได้แต่ส.ส.เขต ซึ่งแนวคิดนี้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ว่าทุกคะแนนมีความหมายไม่ทิ้งน้ำ แต่พรรคใดจะได้หรือไม่ได้ที่นั่งก็ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของพรรค ซึ่งกกต.จะต้องตัดสินใจ และกกต.ต้องตีความข้อกฎหมายว่าพรรคที่มีจำนวนส.ส.น้อยกว่าค่าเฉลี่ยส.ส.พึงมีของพรรค หมายถึงพรรคที่ได้ส.ส.เขตไปแล้วหรือไม่ หรือหมายถึงตัวเลขที่พรรคควรจะได้ ซึ่งตามภาษากฎหมายสามารถถกเถียงกันได้ นายอุดม กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วเข้าใจกกต. แต่กกต.มาพิจารณาเรื่องนี้ช้าไปทำให้เกิดความวุ่นวาย แต่ยืนยันว่าในส่วนของกรธ.คิดตรงกันหมด เพราะเป็นเรื่องที่เคยถกเถียงกันมาแล้ว ดังนั้นต้องใช้คะแนนจากทุกพรรคมาเฉลี่ยแก้ปัญหาโอเวอร์แฮงค์ ไม่เฉพาะพรรคที่ได้ส.ส.เขตเท่านั้น ซึ่งกรธ.มีเอกสารเจตนารมณ์ยืนยันชัดเจน ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ของกกต.มาร่วมอยู่ด้วย แต่ทั้งหมดอยู่ที่คนใช้กฎหมายที่เป็นผู้ถือเจตนารมณ์ถ้ามีข้อโต้แย้งก็อาจต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ กกต.ไม่ต้องยึดตามความเห็นของกรธ. ตอนนี้อยู่ที่ว่ากกต.คิดอย่างไรเท่านั้น ต้องเป็นผู้ยืนยันว่าสูตรไหนถูกต้อง เพราะไม่มีว่าเลือกสูตรไหนก็ได้ ต้องเลือกสูตรเดียว "ระบบสัดส่วนที่เป็นบัตรเดียว ต้องมานั่งคิดว่าคุณจะใช้ตัวเลขที่เท่าไรเป็นตัวตั้ง เดิมแน่นอนว่าค่าเฉลี่ยเป็นตัวตั้งแรก แต่เมื่อค่าเฉลี่ยนี้ มันไม่สามารถที่จะคิดทำให้เกิดเป็นสัดส่วนใน 150 ได้ มันก็จะเป็นต้องหาค่าเฉลี่ยถัดมา ก็ต้องมานั่งคิดอีกว่าตกลงเอาจากทุกพรรคมาคิดค่าเฉลี่ยหรือเอาเฉพาะพรรคที่ได้ส.ส.เขตแล้วมาคิด อันนี้คือโจทย์ที่กกต.จะต้องตัดสิน นายอุดม กล่าวและว่า ระบบที่กรธ.คิด ถือว่าทุกพรรคเม่าเทียมกันหมด ใครได้มากได้น้อยในท้ายที่สุดก็ต้องมาเฉลี่ยในสัดส่วน 150 ว่าพรรคใดจะได้ที่นั่ง"