เมื่อวันที่ 3 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชานแดน สั่งการให้ พ.ต.อ.สุภัทร ม่วงสมัย รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 ร่วมกับ ว่าที่ร้องตรี ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน นายจำรัส ตักโพธิ์ ส.อบจ.นครพนม เขต อ.ท่าอุเทน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แถลงความชัดเจนเกี่ยวกับปัญหา กรณีมีข่าว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าวปราบปรามยาเสพติด ตชด.237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เข้าตรวจสอบ กลุ่มวัยรุ่น จำนวน 6 คน ขณะกำลังรวมกลุ่มเสพกัญชาภายในกระท่อมนา บ้าน ท่าแต้ หมู่ 11 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ในช่วงเวลา 20.30 น. วันที่ 26 มีนาคม 2562 จนกระทั่งภายหลัง ได้ มี นางพรนภัส บุญเทียม อายุ 46 ปี พร้อมด้วย เพื่อนบ้าน ที่เป็นผู้ปกครอง เยาวชน อายุระหว่าง 15 -18 ปี ออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ว่า บุตรชาย ทั้ง 6 คน ถูกทำร้ายร่างกาย เพื่อให้หน่วยงานต้นสังกัดตรวจสอบ เอาผิด ระบุว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และเกิดความวิตกกังวล จะไม่ปลอดภัย จนมีข่าวเผยแพร่ออกไปทางสื่อต่างๆ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ด้าน พ.ต.อ.สุภัทร ม่วงสมัย รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ รับทราบปัญหา ให้การตรวจสอบดูแล สร้างความมั่นใจกับชาวบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง รวมถึงความเชื่อมั่นระหว่าง หน่วยงาน ตำรวจ ตชด.กับประชาชน ในพื้นที่ และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน รวมถึงการดูแลความปลอดภัย จะไม่มีการข่มขู่คุกคาม พร้อมเสนอ ผู้บังคับบัญชา ให้มีคำสั่งย้าย ตำรวจ ทั้ง 10 นาย ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ ออกจากพื้นที่ รวมถึง พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย ตชด.237 อ.ท่าอุเทน พร้อมทั้ง ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย หากเป็นการกระทำผิด ยืนยันว่า จะปฏิบัติตามระเบียบ ขั้นตอนของทางราชการเคร่งครัด และไม่มีการช่วยเหลือ ผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ยืนยันว่า ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนา จะทำร้ายร่างกาย เพียงเกิดการกระทำกระทั่ง ขณะเข้าปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งยอมรับว่าส่วนหนึ่ง เป็นความผิดพลาดในการทำงานไม่รัดกุม จนเกิดปัญหาขึ้น จึงได้มีการเปิดแถลงข่าว เพื่อความชัดเจน ต่อสังคม และไม่ให้กระทบต่อการทำงาน ของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ เคร่งครัด สร้างความมั่นใจต่อประชาชน ลดความขัดแย้ง โดยในครั้งนี้ นางพรนภัส บุญเทียม อายุ 46 ปี ตัวแทนผู้ปกครอง ได้เข้ารับรับฟัง สรุปปัญหา และแถลงข่าว ชี้แจงปมขัดแย่ง ในครั้งนี้ พร้อม ระบุว่า มาถึงวันนี้ยอมรับว่า สบายใจ อุ่นใจมากขึ้น หลัง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความสำคัญ กับปัญหาชาวบ้าน และพร้อมที่จะให้อภัย ในการออกมาเรียกร้อง ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น เพียงอยากให้ เกิดมาตรฐานในการทำงานของตำรวจ รวมถึงสร้างความมั่นใจ ถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ส่วน บุตรหลาน ทั้ง 6 คน ยอมรับ มีการกระทำผิด ตามวัยคึกคะนอง หากจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย รับได้ เพียงขอให้เป็นไปตามกระบวนการ และขอขอบคุณที่ ทางตำรวจ ให้โอกาส ที่จะให้ลุกหลานเข้าสู่กระบวนการ บำบัดฟื้นฟู ทุกคนพอใจ ไม่ไดติดใจจะเรียกร้องอะไรอีก เพียงทางผู้บังคับบัญชาแสดงความรับผิดชอบปัญหา ที่เกิดขึ้น ด้าน พ.ต.อ.สุภัทร ม่วงสมัย รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมาย จากพล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชานแดน ให้ลงพื้นที่ ร่วมกับ พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 เพื่อรับทราบปัญหา พ่อแม่ผู้ปกครอง ที่เดือดร้อน โดยได้ ทำความเข้าใจและยืนยัน ถึงเจตนาของ เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ซึ่งยอมรับว่า ในการทำงานปราบปรามยาเสพติด ในช่วงเวลาสำคัญที่เข้าตรวจค้นปิดล้อม อาจมีการกระทบกระทั่ง กัน เนื่องจากกลุ่มเยาวชน อาจขัดขืน หรือตกใจพยายามหนี แต่ยอมรับว่า ทางตำรวจ เอง ยังทำงานบกพร่องไม่รัดกุม จึงได้มีการมอบหมายให้ ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วย กำชับ ให้ทุกนายทำงานด้วยความรัดกุม มีมาตรฐาน ในการทำงาน ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก ส่วนการดำเนินการทางวินัย ยืนยันว่า ถึงแม้จะเป็นตำรวจในสังกัด หากทำงานบกพร่อง จะต้องมีการตั้งคระกรรมการตรวจสอบ ตามขั้นตอน หากมีการกระทำผิด จะต้องได้รับการลงโทษ ตามขั้นตอน และได้ มีคำสั่งย้าย ตำรวจทั้ง 10 นาย ออกจากพื้นที่แล้ว รวม ถึง ผบ.ร้อย ตชด.237 จะต้องรับผิดชอบ ในฐานะผู้กำกับดูแล ที่สำคัญขอให้พ่อแม่ผู้ปกครอง มั่นใจ ทาง ตชด.จะให้ความเป็นธรรม ทุกคน และขอให้มั่นใจในความปลอดภัย และจะมีการกำชับการทำงานตำรวจไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก และขอบคุณ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ที่เข้าใจ และยังคงให้ความเชื่อมั่น ในหน่วยงาน ตำรวจ ตชด. ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่ดูแลประชาชน ใกล้ชิดมาตลอด ขอให้มั่นใจว่า หากใครก็ตามในสังกัดกระทำผิด ยืนยันไม่มีละเว้นจะต้องถูกลงโทษตามระเบียบวินัย ทุกนาย