คพ.รายงานอากาศวันนี้ ในกทม.ระดับปานกลางถึงดีมาก ขณะ”เชียงใหม่” ครองแชมป์โลกอากาศแย่ที่สุด กรมอนามัยห่วงปิดเทอมเด็กๆ เสี่ยงฝุ่นพิษ แนะพ่อแม่ดูแลให้เลี่ยงเล่นนอกบ้าน 5 กลุ่มเสี่ยงต้องระวัง ขณะคนเชียงรายสุดจะทนไหวแล้ว เผยภาพอากาศ 30 มี.ค.ที่ผ่านมาหนักสุดๆ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ประจำวันที่ 31 มี.ค.62 ระบุปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ลดลงจากเมื่อวานเล็กน้อย โดยปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) ทุกพื้นที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงดีมาก จากแบบจำลองการคาดการณ์ปริมาณ PM2.5 ของ คพ. คาดว่าในวันพรุ่งนี้ปริมาณ PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่การจัดอันดับคุณภาพอากาศเมืองทั่วโลก Air quality and pollution city ranking ประจำวันที่ 31 มี.ค.62 เวลา 09:20 น. ปรากฏว่า เมืองเชียงใหม่ ประเทศไทย อยู่ในลำดับที่ 1 คุณภาพอากาศยอดแย่มีปริมาณฝุ่น PM2.5 มากที่สุดในโลก ที่ 254 AQI ขณะที่ กทม. วันนี้อยู่ในลำดับที่ 42 ของโลก ค่าฝุ่นอยู่ที่ 72 AQI  กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะช่วงปิดเทอมพ่อแม่ผู้ปกครองในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ต้องดูแลเด็กให้เลี่ยงทำกิจกรรมนอกบ้านเพื่อป้องกันความเสี่ยงสูดฝุ่น อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามมา พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ภาคเหนือยังประสบวิกฤติปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐาน ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ โดยกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคหัวใจ และกลุ่มเด็กซึ่งช่วงนี้ปิดเทอมทำให้เด็กมีเวลาทำกิจกรรมนอกบ้านเพิ่มมากขึ้น พ่อแม่ ผู้ปกครองควรตรวจสภาพอากาศ หากมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐาน ควรเปลี่ยนให้เด็กทำกิจกรรมในบ้านแทน หากเลี่ยงไม่ได้ ควรให้เด็กสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองทุกครั้งเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากปอดของเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ อัตราการหายใจถี่กว่าผู้ใหญ่ และเด็กยังมีภูมิต้านทานต่ำ โอกาสที่เด็กจะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็กจึงมากกว่าผู้ใหญ่ “ทั้งนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรสังเกตอาการผิดปกติของเด็ก เช่น ระคายเคืองผิวหนัง แสบตา แสบจมูก น้ำมูกไหล ไอ คอแห้ง เจ็บคอ หายใจลำบาก อึดอัดแน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียน หากพบอาการดังกล่าว ให้รีบพาไปพบแพทย์หรือไปที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ให้เด็กดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อวัน กินผักผลไม้ และดูแลบ้านให้สะอาด สำหรับเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดและหรือโรคหัวใจให้พกยาติดตัวเสมอ” ขณะที่ในโลกโซเชียลได้มีการรีทวิตถึงวิกฤติปัญหาฝุ่นในพื้นที่ภาคเหนือ อาทิ “DefJb: @bbeearnmm เชียงรายก็หนักอยู่นะ นี่ไปเรียนแสบตา แสบจมูก แสบคอไปหมด ขอร้องเถอะช่วยแก้ปัญหานี้ทีสูดดมฝุ่นเข้าปอดมาหลายอาทิตย์แล้ว มันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆเลย แบบนี้ไม่ไหวจริงๆนะ #ฝุ่นเชียงใหม่” “ซังกุงป้อม‏ @lim_chenyang ฝุ่นควันยั่วๆ จ้า มะเร็งปอดยั่วๆ จ้า ที่ว่าวันที่ 24 หนักสุดละนะ ตั้งแต่อยู่มา 20 กว่าปี ปีนี้ วันนี้คือหนักที่สุด แค่เปิดประตูไปนอกห้องก็ได้กลิ่นควันไฟแล้วอ่ะ”