พายุฝนหลงฤดูและลูกเห็บถล่ม อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ หนักสุดในรอบกว่า 10 ปี พัดบ้าน โรงเรียน ยุ้งข้าว พังเสียหายกว่า 100 หลัง ต้นไม้ขนาดใหญ่และไม้ผลหักโค่นเสียหายจำนวนมากไฟฟ้าดับนายกว่าชั่งโมง ลุงวัย 59 วิ่งหนีออกจากบ้านที่พังทั้งหลังถูกคานทับหวิดดับหัวแตกเย็บ 14 เข็ม นายก อบต.พร้อมเจ้าหน้าที่รุดสำรวจความเสียหายเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ
วันนี้(29 มี.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุพายุฝนหลงฤดูและลูกเห็บถล่มที่ ต.บุกระสัง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ หนักสุดในรอบกว่า 10 ปี ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎร โรงเรียน ยุ้งข้าว ในพื้นที่ 3 หมู่บ้าน มี ม.4 บ้านสระสะแก , ม.5 บ้านถนนถั่ว และ ม. 10 บ้านหนองโบสถ์ ต.บุกระสัง อ.หนองกี่ ถูกพายุฝนและลูกเห็บถล่มใส่ ได้รับความเสียหายรวมกว่า 100 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มีบ้านที่พังเสียหายทั้งหลังจำนวน 1 หลัง
โดยบ้านที่พังทั้งหลังได้ทับนายเม้า ทำดี อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บด้วย ทั้งนี้พายุฝนและลูกเห็บยังได้พัดกระหน่ำต้นไม้ขนาดใหญ่ และไม้ผล เช่น มะม่วง มะขาม กล้วย และขนุน หักโค่นล้มเสียหายอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งยังทำให้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่ทั้ง 3 หมู่บ้านดับนานกว่า 1 ชั่วโมง
นอกจากนั้น ยุ้งข้าวที่ถูกพายุพัดหลังคาเปิง ก็ทำให้ข้าวเปลือกของเกษตรกรที่เก็บไว้ในยุ้งเปียกชื้น เกษตรกรต้องเร่งนำไปตากให้แห้งแล้วเก็บไปไว้ในที่ร่มเพราะเกรงพายุฝนจะกระหน่ำซ้ำ อาจจะทำให้ข้าวเปลือกเปียกชื้นเสียหายได้
นายเม้า ทำดี อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกพายุพัดบ้านพังเสียหายทั้งหลัง เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ได้มีพายุฝน ลมพัดกระหน่ำและลูกเห็บถล่มอย่างแรง นานกว่า 1 ชั่วโมง จนทำให้บ้านที่กำลังก่อสร้างพังเสียหายทั้งหลัง โดยก่อนที่บ้านจะพังตนเองและช่างก็นั่งอยู่ในบ้าน พอเห็นบ้านโครงเครงทำทีเหมือนจะล้มตนก็พยายามจะวิ่งหนีออกจากบ้านแต่ไม่พ้นได้ถูกคานบ้านที่พังทับบริเวณศรีษะแตก ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลเย็บ 14 เข็ม ส่วนช่างที่อยู่ในบ้านไม่ได้วิ่งหนีกลับโชคดีที่ไม่เป็นอะไร เพราะยังมีกองดินค้ำไว้ ซึ่งนอกจากตัวบ้านจะพังเสียหายแล้ว รถจักรยานยนต์ และจักรยานยนต์พ่วงข้าง ก็ถูกบ้านพังทับได้รับความเสียหายด้วย ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือด้วย
ด้านนายอิสรพงษ์ เสนคราม นายก อบต.บุกระสัง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้กล่าวภายหลังพาเจ้าหน้าที่ และผู้นำชุมชนลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายว่า จากการสำรวจเบื้องต้นพบมีบ้านเรือน โรงเรียน ยุ้งข้าวถูกพายุพัดพังเสียหาย ประมาณ 100 หลัง และยอมรับว่า เหตุการณ์ครั้งนี้พายุได้พัดถล่มหนักสุดในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งทาง อบต.ก็ได้ตั้งศูนย์เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์จากกรณีประสบภัยพิบัติแล้ว พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อรายงานให้ทางอำเภอ จังหวัดทราบตามขั้นตอน เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบหลักเกณฑ์ทางราชการอย่างเร่งด่วนต่อไป
วันนี้(29 มี.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุพายุฝนหลงฤดูและลูกเห็บถล่มที่ ต.บุกระสัง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ หนักสุดในรอบกว่า 10 ปี ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎร โรงเรียน ยุ้งข้าว ในพื้นที่ 3 หมู่บ้าน มี ม.4 บ้านสระสะแก , ม.5 บ้านถนนถั่ว และ ม. 10 บ้านหนองโบสถ์ ต.บุกระสัง อ.หนองกี่ ถูกพายุฝนและลูกเห็บถล่มใส่ ได้รับความเสียหายรวมกว่า 100 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มีบ้านที่พังเสียหายทั้งหลังจำนวน 1 หลัง
โดยบ้านที่พังทั้งหลังได้ทับนายเม้า ทำดี อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บด้วย ทั้งนี้พายุฝนและลูกเห็บยังได้พัดกระหน่ำต้นไม้ขนาดใหญ่ และไม้ผล เช่น มะม่วง มะขาม กล้วย และขนุน หักโค่นล้มเสียหายอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งยังทำให้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่ทั้ง 3 หมู่บ้านดับนานกว่า 1 ชั่วโมง
นอกจากนั้น ยุ้งข้าวที่ถูกพายุพัดหลังคาเปิง ก็ทำให้ข้าวเปลือกของเกษตรกรที่เก็บไว้ในยุ้งเปียกชื้น เกษตรกรต้องเร่งนำไปตากให้แห้งแล้วเก็บไปไว้ในที่ร่มเพราะเกรงพายุฝนจะกระหน่ำซ้ำ อาจจะทำให้ข้าวเปลือกเปียกชื้นเสียหายได้
นายเม้า ทำดี อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกพายุพัดบ้านพังเสียหายทั้งหลัง เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ได้มีพายุฝน ลมพัดกระหน่ำและลูกเห็บถล่มอย่างแรง นานกว่า 1 ชั่วโมง จนทำให้บ้านที่กำลังก่อสร้างพังเสียหายทั้งหลัง โดยก่อนที่บ้านจะพังตนเองและช่างก็นั่งอยู่ในบ้าน พอเห็นบ้านโครงเครงทำทีเหมือนจะล้มตนก็พยายามจะวิ่งหนีออกจากบ้านแต่ไม่พ้นได้ถูกคานบ้านที่พังทับบริเวณศรีษะแตก ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลเย็บ 14 เข็ม ส่วนช่างที่อยู่ในบ้านไม่ได้วิ่งหนีกลับโชคดีที่ไม่เป็นอะไร เพราะยังมีกองดินค้ำไว้ ซึ่งนอกจากตัวบ้านจะพังเสียหายแล้ว รถจักรยานยนต์ และจักรยานยนต์พ่วงข้าง ก็ถูกบ้านพังทับได้รับความเสียหายด้วย ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือด้วย
ด้านนายอิสรพงษ์ เสนคราม นายก อบต.บุกระสัง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้กล่าวภายหลังพาเจ้าหน้าที่ และผู้นำชุมชนลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายว่า จากการสำรวจเบื้องต้นพบมีบ้านเรือน โรงเรียน ยุ้งข้าวถูกพายุพัดพังเสียหาย ประมาณ 100 หลัง และยอมรับว่า เหตุการณ์ครั้งนี้พายุได้พัดถล่มหนักสุดในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งทาง อบต.ก็ได้ตั้งศูนย์เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์จากกรณีประสบภัยพิบัติแล้ว พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อรายงานให้ทางอำเภอ จังหวัดทราบตามขั้นตอน เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบหลักเกณฑ์ทางราชการอย่างเร่งด่วนต่อไป