นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยปี 2562 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 1/2562 ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อคาดการณ์ถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 นี้ เป็นผลการสำรวจในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม และคาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาสทรา2/2562 ตลอดจนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2562 ซึ่งผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่น ไตรมาสที่ 1/2563 เท่ากับ 98 อยู่ในระดับใกล้เคียงปกติและใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 100 สะท้อนสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างทรงตัว เนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงเช่นกัน อัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องจากปลายปี 2561 รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำและสถานการณ์ฝุ่นละอองยังคงรุนแรงในบางพื้นที่ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการมีความกังวลและประเมินสถานการณ์ต่ำกว่าปกติ มาจาก ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมประมาณ 18 % หรือภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังซบเซาทำให้กำลังซื้อลดลง 16 % ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวดีขึ้นบ้างในไตรมาสแรกนี้จากการเดินทางที่สะดวกและง่ายขึ้น รวมถึงการขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การส่งเสริมการท่องเที่ยวและกิจกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจจาก ททท. ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน โดยภาครัฐและเอกชนก็ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาและร่วมกันสนับสนุนการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวมาโดยตลอด ทำให้คาดว่าในปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 40.64 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.17% จากปี 2561 และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.20 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 9.36 % ขณะที่ไตรมาส 2/2562 ถ้าไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.28 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.62 % จากไตรมาส 2/2561 โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มอาเซียน 2.66 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.31 % นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก 4.03 ล้านคน เพิ่มขึ้น3.07% และนักท่องเที่ยวจากยุโรปจะอยู่ที่ 1.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.60 % จากไตรมาส 2/2561 ส่วน การสำรวจความเห็นผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่เห็นว่า ปัญหาหลักที่ควรได้รับการแก้ไขคือผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวที่ไม่มีใบอนุญาตและทักษะด้านต่างๆ ของแรงงานโดยเฉพาะด้านภาษา รวมถึงการพัฒนาระบบ ITและบุคลากรที่จะทำหน้าที่ในการดูแลระบบ IT ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวทั้งในระดับพื้นที่และระดับโลก พัฒนาช่องทางในการติดต่อสื่อสารทั้งระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น ททท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อวางแผนการจัดทำโปรโมชั่นและการประชาสัมพันธ์ สำหรับ นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สะท้อนปัญหาตรงกันคือควรส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการด้านรถสาธารณะภายในพื้นที่ในรูปแบบต่างๆ และพัฒนาช่องทาง application ในการติดต่อระหว่างนักท่องเที่ยวและผู้ให้บริการ รวมถึงการพัฒนาระบบ feedback ความพึงพอใจในการให้บริการและการร้องเรียน ซึ่งในเรื่องนี้ ทาง สทท.ได้เสนอให้ภาครัฐร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อช่วยในการลดมลพิษและสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว สนับสนุนภาคประชาชน และผู้ประกอบการในการดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยว กำหนดมาตรการให้สิทธิประโยชน์ทั้งทางภาษีและไม่ใช่ภาษี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงส่งเสริมการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรม ประเพณีต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับทราบและมีการวางแผนล่วงหน้า