เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ยื่นหนังสือถึงพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติพัฒนา เสรีรวมไทยและพลังท้องถิ่นไทย เรียกร้องให้มีการทบทวนการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าและออกกฎระเบียบที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงของเยาวชนและการปัญหาตลาดใต้ดิน นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าลาขาดควันยาสูบ End Cigarette Smoke Thailand (ECST)” และเฟสบุ๊คเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557 บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย และมีมาตรการที่เข้มงวด ทั้งจับ-ปรับ หรือบ่อยครั้งที่มีการเรียกรับเงินสินบนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศ สูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี และยังทำให้ตลาดบุหรี่ไฟฟ้าใต้ดินเติบโต การเปิดช่องให้เด็กๆ ซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าจากร้านออนไลน์ได้แบบไม่มีการควบคุม แต่รัฐบาลก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ อีกไม่กี่วันก็จะถึงการเลือกตั้ง เราจึงมายื่นหนังสือให้กับพรรคการเมือง เพื่อให้รับทราบข้อเรียกร้องของเราที่ต้องการให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าควบคุม และหวังว่านักการเมืองรุ่นใหม่ๆ จะเห็นถึงประโยน์ของบุหรี่ไฟฟ้าในการช่วยลดอันตรายจากการสูบบุหรี่เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้วและช่วยผลักดันให้เป็นสินค้าที่ถูกกฎหมาย นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวแทนพรรครับมอบหนังสือเปิดเผยว่า จะนำข้อเรียกร้องของเครือข่ายไปหารือกับกรรมการพรรค เพื่อหาทางออกให้ที่เหมาะสมต่อไป พร้อมยืนยันต้องการเดินหน้าแก้ปัญหาสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยเป็นรัฐบาล ดร. ณัฐพงษ์ รอบคอบ พรรคพลังท้องถิ่นไท ได้แสดงความคิดเห็นว่า พรรคเห็นด้วยว่ามาตรการควบคุมสูบบุหรี่ต้องปรับปรุงให้มีความทันสมัย การแบนบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ทางออก ทุกวันนี้เราพยายามเก็บภาษีบุหรี่ให้สูงๆ เพราะหวังว่าคนจะเลิกสูบบุหรี่ และหารายได้เข้ารัฐจากภาษีบุหรี่ด้วย แต่รัฐบาลกลับไม่มีทางเลือกให้ผู้สูบบุหรี่เลย ผู้สูบบุหรี่ต้องไปหาซื้อสินค้าจากตลาดผิดกฎหมาย เราเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้คนเลิกบุหรี่ได้จริง ดังนั้นพรรคมีนโยบายที่จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าถูกกฎหมาย มีการควบคุม ลงทะเบียนผู้ซื้อผู้ขาย จะได้เป็นการป้องกันเยาวชนได้ด้วย ด้านนายเดชา ศกุนตนาคลาภ พรรคชาติพัฒนาเสริมว่า “ทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวนจริง และรัฐบาลในหลายประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ อังกฤษ สหภาพยุโรป ก็สนับสนุนให้คนในประเทศใช้เป็นทางเลือก แทนการสูบบุหรี่ เราก็อยากจะช่วยผลักดันให้เกิดการควบคุมให้ถูกกฎหมาย เราเชื่อว่าประชาชนก็อยากเห็นการแก้ปัญหาสาธารณสุขด้วยแนวทางใหม่ๆ เช่นเดียวกัน”