การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั่วไป เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา ถือเป็นการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2560 อีกทั้งยังเป็นการเลือกตั้งที่ที่ไปสู่การเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปสู่การมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง การเลือกตั้งภายใต้กติกาใหม่ ในท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองอันเข้มข้น อีกทั้งมีการย้ายพรรค ขั้วย้ายกันจ้าละหวั่น ตลอดจนในสนามเลือกตั้งส.ส.รอบนี้ ยังเปิดรับพรรคการเมืองหน้าใหม่ มากเป็นประวัติการ แต่ทั้งนี้น่าสนใจว่าได้เกิดปรากฎการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อพบว่า มีนีกการเมืองระดับ “แชมป์เก่า” อดีตส.ส.หลายสมัย เจ้าของพื้นที่ที่มีฐานเสียงเดิมเหนียวแน่น กลับถูกโค่นลง จนกลายเป็น “ส.ส.สอบตก” ชนิดที่เรียกว่า “หักปากกาเซียน” ด้วยกันหลายพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมี “ผู้สมัคหน้าใหม่” ที่อาสาลงสนามเลือกตั้ง แต่สามารถ “แจ้งเกิด” จนได้เป็น “ส.ส.ป้ายแดง” สร้างความฮือฮา ด้วยกันหลายรายเช่นกัน สำหรับบิ๊กเนม ที่ถูกโค่นชนิดที่ทำคอการเมืองอึ้งทั้งเมือง ไล่กันมาตั้งแต่ จ.พิษณุโลก เขต 1 เมื่อ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส. พิษณุโลก 3 สมัย จากพรรคประชาธิปัตย์ ต้องพ่ายแพ้ ให้กับ “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” จากพรรคอนาคตใหม่ โดยล่าสุดหมอวรงค์ ได้เปิดใจผ่านสื่อ ว่า “ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ตนต้องขอขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจในทุกคะแนนเสียงซึ่งตนเองยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ แต่ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของตนเองเท่านั้น ถือเป็นความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ความเห็นส่วนตัวของผมความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากตัวผู้สมัครอย่างเดียว แต่ปัญหาใหญ่คือยุทธศาสตร์ของพรรค พรรคมีความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ของพรรคที่ผ่านมาเราควรต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยมากกว่า แต่ไม่ควรไปต่อสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเราประเมินความผิดพลาดเป็นอย่างมาก” งานนี้ต้องบอกเลยว่า หมอวรงค์ เจอกับผู้สมัครหน้าใหม่ คือปดิพัทธ์ ที่เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ ปดิพัทธ์ เป็น ศิษย์เก่าพิษณุโลกพิทยาคม จบสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Master of Theological studies, Trinity Theological college Singapore อายุเพียง 38 ปี เรียกว่าเป็นว่าที่ส.ส.ใหม่ถอดด้าม ดิ่งลงตรงมาที่ สนามช้างถูกล้ม ที่จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อ “ตระกูลเทือกสุบรรณ” ของ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ต้องพ่ายแพ้ให้กับ “พรรคประชาธิปัตย์” อย่างหมดรูป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ต่างฝ่ายต่างเปิดศึกระหว่างคนกันเอง แต่แล้ว น้องชายของสุเทพ กลับไม่สามารถรักษาฐานที่มั่นเอาไว้ได้ เมื่อ ธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.เขต 1 และ เชน เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.เขต 4 สุราษฎร์ธานี ได้ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ แล้วมาสวมเสื้อพรรครวมพลังประชาชาติไทย ลงสมัครชนกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ กลับต้องสอบตกทั้งสองเขต ภานุ ศรีบุษยกาญจน์ โดยในเขตเลือกตั้งที่ 1 ธานี ชนกับ ภานุ ศรีบุษยกาญจน์ ผู้ลงสมัคร จากประชาธิปัตย์ โดยเป็นการลงสมัครส.ส.ครั้งแรกอีกด้วย แต่กลับกวาดคะแนนไปได้ถึง 30,287 คะแนน ส่วนธานี แชมป์เก่า ทำได้เพียง 11,635  คะแนน ส่วนเขตที่ 4 เป็นการเจอกันระหว่าง เชน เจอกับ สมชาติ ประดิษฐพร อดีตประธานสภา อบจ.สุราษฎร์ธานี ที่ขยับชั้นเล่นสนามใหญ่ ครั้งแรก ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยกวาดแต้มมาได้กว่า 4 หมื่นคะแนน  อิทธิพล คุณปลื้ม จังหวัดพัทลุง เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่พลิกความคาดหมาย เมื่อระดับแกนนำประชาธิปัตย์ ปีกอำนาจของ “นายหัวชวน” ชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค อย่างนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ อดีตแชมป์หลายสมัยอีกทั้งยังมีดีกรีเป็นถึง “อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม”ต้องพ่ายให้กับ ฉลอง เทอดวีระพงษ์ ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ที่ดอดมาเจาะไข่แดง นำธงพรรคภูมิใจไทย มาปักได้สำเร็จในพื้นที่ประชาธิปัตย์ อิทธิพล คุณปลื้ม บุตรชายคนเล็ก อดีตส.ส.-นายกเมืองพัทยา สอบตก ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะต้องแพ้คะแนนให้กับ จรัส คุ้มไข่น้ำ จากพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งเขตที่พลิกความคาดหมาย เพราะเขตเลือกตั้งที่ 6 นั้นอิทธิพล สู้ในพื้นที่เดิมของครอบครัวคุณปลื้ม แต่กลับต้องมาเปิดทางให้พรรคหน้าใหม่ อย่างอนาคตใหม่บุกเข้าไปแจ้งเกิดถึงในบ้าน