ดนตรี/วรรณากร ทองเสริม นอกจาก ไบรอัน อดัมส์ จะเป็นผลิตผลทางดนตรีอีกคนหนึ่งจากแคนาดาแล้ว เขายังเป็นศิลปินอีกคนที่จัดว่า “ตายยาก” เมื่อใดที่เราเริ่มจะลืมๆ ไปว่าเคยมีเขาและบทเพลงของเขาอยู่บนชาร์ตเพลง เมื่อนั้น อดัมส์ จะกลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่ นับตั้งแต่เขาเริ่มโด่งดังระดับโลกจากอัลบั้ม Reckless เมื่อ35 ปีก่อน และมีเพลงฮิตอย่าง “Summer Of '69” จนถึงปัจจุบันนี้ เขามีงานในแบบสตูดิโออัลบั้มทั้งหมด 14 ชุด โดยชุดล่าสุดซึ่งเป็นชุดที่ 14 ให้ชื่อไว้ว่า Shine A Light ป็อป-ร็อค ยังคงเป็นสิ่งที่ ไบรอัน เลือกให้เป็นกรอบดนตรีของงานชุดใหม่เช่นเดียวกับงานชุดที่ผ่านๆ มา โดยมีคันทรี่ย์แซมอยู่เล็กน้อย และเขาก็แสดงให้เห็นความเก๋าในการผสมเพลงทั้งสองแนวเข้าด้วยกันโดยไม่ได้ผ่อนความเป็นร็อคให้เบาบางลง เพื่อให้เพลงฟังป็อปขึ้น แต่เพลงของเขาก็ยังฟังง่ายและสนุกอย่างที่เคยเป็นมา สำหรับแฟนเพลงที่เหนียวแน่นของเขา อัลบั้มนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังเพราะมีทุกอย่างที่คุณคาดหวังว่าเพลงของ ไบรอัน อดัมส์ จะมี แต่หากคุณจะมองหาสิ่งแปลกใหม่ในงานชุดนี้ ก็อาจจะไม่สมหวังสักเท่าไหร่ แทร็คแรกที่มีชื่อเดียวกับชื่ออัลบั้มนั้นฟังแล้วติดหูทันที นั่นอาจเป็นเพราะ “Shine A Light” มีชื่อผู้ร่วมเขียนเพลงอีกคนคือ เอ๊ด ชีแรน เป็นเพลงป็อป-ร็อคที่มีจังหวะสนุกและให้อารมณ์ที่สดใส และมีความร่วมสมัยที่เด่นชัดเช่นเดียวกับเพลง “The Last Night On Earth” และ “That's How Strong Our Love Is” เพลงบัลลาดแบบเล่นใหญ่ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่ อดัมส์ ถนัดนัก เพลงนี้มี เจนนิเฟอร์ โลเปซ มาร้องคู่กับเขาด้วย และเธอก็ทำได้ไม่เลวเลย เพลงอื่นๆ ที่ติดตามมาล้วนเป็นป็อป-ร็อคในแบบฉบับของ ไบรอัน อดัมส์ อาทิ “Driving Under The Influence Of Love” เพลงร็อคมันๆ ที่ให้เปียโนเป็นตัวชูโรงคู่กับเสียงริฟฟ์กีตาร์ ส่วน “All Or Nothing”, “Nobody's Girl” ชวนให้คิดถึงเพลงร็อครุ่นคลาสสิค ขณะที่ “Don't Look Back” เป็นเพลงจังหวะกลางๆ ที่ฟังเพลิน ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพลงคันทรี่ย์ร่วมสมัย คือไม่ได้สมัยใหม่จ๋า แต่ก็ไม่ได้เก่าจนเกินไป เราอาจจะแปลกใจนิดหน่อยที่เขาเลือกปิดท้ายอัลบั้มด้วย “Whiskey In The Jar” แทร็คสุดท้ายนี้เป็นเพลงพื้นบ้านของชาวไอริชที่ อดัมส์ ก็หยิบจับมาปรับแต่งใหม่โดยมีเสียงฮาร์โมนิก้าเป็นตัวเด่น นับเป็นการปิดจ็อบอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ในขณะที่ศิลปินและคนฟังรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการดาวน์โหลด/สตรีมมิ่งไฟล์ดิจิทัลเป็นหลัก ไบรอัน อดัมส์ กลับตัดสินใจออกผลงานในทุกรูปแบบ นอกจากรูปแบบดิจิทัลแล้ว เขายังมีอัลบั้ม Shine A Light วางจำหน่ายในรูปแบบของแผ่นซีดี แผ่นเสียงไวนิลและเทปคาสเซ็ตต์ ซึ่งสองประเภทหลังสุดนี้กำลังกลายเป็นสื่อรุ่นคลาสสิคที่หมู่นักฟังเพลงจำนวนไม่น้อยกำลังสะสมกัน แทนที่จะล้มหายตายจากไปเหมือนดังคำทำนายที่เคยมี เรียกว่า “ตายยาก” พอๆ กับ ไบรอัน อดัมส์ ยังไงยังงั้น