คืบหน้าล่าสุด 9 กรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกจับกุมและยึดทรัพย์ ฐานโกงเงินค่าจัดการศพสมาชิกกว่า 320 ล้าน ได้รับการประกันตัวแล้ว ตร.เร่งสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้อง “บิ๊กโจ๊ก” เตรียมส่งทีมเจรจาไกล่เกลี่ยคืนเงินบรรเทาความเดือดร้อนผู้เสียหาย ส่วนคดีอาญายังดำเนินการไปตามกฎหมาย วันนี้ (22 มี.ค.62) จากกรณีที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) ได้ส่งชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ สนธิกำลังกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบ สภ.สตึก รวมกว่า 100 นาย นำหมายศาลเข้าจับกุมนายก และกรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จำนวน 9 ราย เมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันยักยอกทรัพย์, ร่วมกันดำเนินกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยมิได้จดทะเบียนเป็นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือขึ้นทะเบียนฌาปนกิจสงเคราะห์, ร่วมกันดำเนินการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยฝ่าฝืนกฎหมาย" พร้อมทั้งตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 อาทิ เงินสด บ้าน รถ ที่ดิน ไว้เพื่อตรวจสอบ รวมมูลค่า 36 ล้านบาทด้วย ล่าสุด ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ได้ยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้อนุญาตให้ประกันตัว เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี อย่างไรก็ตามจะเร่งสรุปสำนวนคดีส่งอัยการจังหวัดเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องโดยเร็ว ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ก็เตรียมจัดชุดเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปราบอาชญากรรมฯ ลงพื้นที่ร่วมกับตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ และ สภ.สตึก เปิดโต๊ะเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย กับชาวบ้านผู้เสียหาย เพื่อตกลงจ่ายเงินที่ฉ้อโกงไปคืนเพื่อเป็นการบรรเทาเยียวยาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหาย ส่วนเรื่องคดีอาญาก็ยังดำเนินการไปตามกระบวนการ ซึ่งจากการสอบสวนรวบรวมข้อมูลหลักฐานเบื้องต้นพบมีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความแล้ว 3,300 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 320 ล้านบาท แต่หลังจากที่มีการจับกุม 9กรรมการฌาปนกิจ ก็ได้มีชาวบ้านผู้เสียหายทยอยนำหลักฐานเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง น.ส.บุญตา โบว์เลอร์ หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า หลังจากต่อสู้เรียกร้องมาตั้งแต่ปี 2559 ก็ไม่มีความคืบหน้า แต่พอมาวันนี้ที่ทราบว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาและยึดอายัดทรัพย์ที่ได้จากการหลอกลวงชาวบ้าน ก็รู้สึกดีใจพร้อมทั้งได้ขอบคุณ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้ชาวบ้านที่ตกเป็นผู้เสียหายรู้สึกมีความหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยากได้เงินที่ถูกหลอกลวงไปคืนแม้จะไม่ทั้งหมด ก็ขอคืนบางส่วน อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้เงินคืนก็อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องหาทั้ง 9 รายถึงที่สุด และอยากให้คดีดังกล่าวเป็นกรณีตัวอย่างเพราะไม่อยากให้ชาวบ้านต้องมาตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวทำให้ต้องสูญเสียเงินซ้ำอีก