ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดรับข้อเสนอโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งเปิดรับข้อเสนอที่กองบัญชากองทัพเรือ เรียกได้ว่า จำนวนเอกสารเยอะมาก จนต้องนำรถหกล้อ และรถปิ๊กอัพ หลายคันรถมาขนลังเอกสารกันมาเลยทีเดียว ซีพีถือฤกษ์มงคล 12.20 หวังประมูลฉลุย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค.62 ทาง 3 กลุ่มเอกชนรายใหญ่ของไทยและพันมิตรได้เดินทางเข้ามาที่กองบัญชาการกองทัพเรือ วนอุทยาน เพื่อยื่นซองข้อเสนอโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยรายแรกกลุ่มซีพี ยื่นเมื่อเวลา 12.20 น.โดยนายนพปฎล เดชอุดม รองประธานสำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาลและสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข รองประธานสำนักพัฒนาโครงการพิเศษ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในนามบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตรได้แก่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK,บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือ ITD,บริษัท บี.กริม.จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ Fraport AG Frankfurt Airport Services Worldwide จากเยอรมนี ส่วนรายที่ 2 เป็นกลุ่มแกรนด์ คอนโซเตียม (GRAND Consortium)ประกอบด้วย บริษัท แกรนด์ แอสเสท โอเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)หรือ GRAND อยู่ในกลุ่มบริษัท พร็อพเพอร์ซี่ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF สัดส่วน 80% บริษัทไทยแอร์เอเชีย จำกัด (บริษัทย่อยของ บริษัทเอเชียเอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV)ถือ 10% และบริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น(ไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ CNT ถือ 10% โดยให้ GMR Airport Limited จากอินเดีย มาบริหารสนามบิน และ China Harbour Engineering Company Limited โดยมีนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง นักธุรกิจชื่อดัง นำตัวแทนของกลุ่มเข้ายื่นเอกสาร ขณะที่รายที่ 3 เป็นกลุ่มกิจการร่วมค้า BBS ประกอบด้วย บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS,บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ STEC สำหรับโครงการสนามบินอู่ตะเภาเป็นยุทธศาสตร์ที่ต้องทำให้สำเร็จ เพราะถือเป็นโอกาสของคนไทยทั้งประเทศ โดยต้องเปิดทางให้เอกชนร่วมลงทุน และดึงความสามารถจากคนเก่งทั่วโลกมาช่วยกันทำให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งต้องอาศัยเอกชนไทยรายใหญ่ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกมาช่วยกันทำเพื่อประเทศ และดึงผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมาบริหาร ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์และเคยบริหารสนามบินระดับโลกมาแล้ว ถือเป็นการเสริมศักยภาพผลักดันให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินระดับโลก อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการพัฒนาพื้นที่ภายในสนามบินให้กลายเป็นเมืองการบินภาคตะวันออก ยกระดับให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต โดยการยื่นซองประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา สู่มหานครการบินภาคตะวันออก แม้ว่ามูลค่าการลงทุนของโครงการนี้จะสูงถึง 2.9 แสนล้านบาท มีเอกชนทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาซื้อซองประมูลกันมากถึง 42 ราย แต่แน่นอนว่าโครงการนี้ต้องลงทุนเยอะ และความเสี่ยงเยอะ ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศต้องชำเลืองมองนักลงทุนไทยว่า คนไทยเองมั่นใจกับโครงการนี้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นการที่มีเอกชนไทยรายใหญ่มาร่วมประมูล ถือเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศ