เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 22 มี.ค. 2562 ที่ศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้า หรือ ศปก. สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายสุริยง มาผางวง รองกงสุลใหญ่ สปป.ลาว ประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีคนร้ายซึุ่งเป้นชายไทย ทำการล่อลวง น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาว สปป.ลาว ผ่านทางเฟชบุค ก่อนที่จะลงมือข่มขืนกระทำชำเรา ภายในรีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่งในเขต อ.บ้านไผ่ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของเมื่อวานที่ผ่านมา ( 21 มี.ค.) โดยมีเจ้าหนา้ที่ตำรวจท่องเทีย่วและเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเดินทางเข้าร่วมรับฟังสรุปรายงานผลการดำเนินงานทางคดีในคดีดังกล่าว พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ผู้เสียหายรู้จักกับผู้ก่อเหตุทางเฟชบุคชื่อ“คัยสักคน ที่จริงใจ” หรือนายบิ๊ก ได้ประมาณ 3 เดือน โดยเป็นเพียงการพูดคุยกัน ไม่มีการคบหากัน หรือพบเจอกัน โดยผู้ก่อเหตุได้ยืมเงินผู้เสียหายหลายครั้ง และก่อนเกิดเหตุนายบิ๊กได้ล่อลวงผู้เสียหายมาพบที่ อ.บ้านไผ่ โดยออกอุบายว่าจะคืนเงิน ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและเดินทางมาพบ จนถูกข่มขืนในรีสอร์ท " เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสของนายบิ๊ก ตามทะเบียนรถจักรยานยนต์คันที่ขับขี่ไปรับผู้เสียหายและทราบชื่อที่อยู่เจ้าของรถจักรยานยนต์แล้วเช่นกัน ซึ่งกำลังตามหาตัวมาสอบสวนว่าใช่คนที่ก่อเหตุล่อลวงสาวลาวรายนี้หรือไม่ ซึ่งถ้าใช่ก็จะถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหา" ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวต่ออีกว่า คดีความดังกล่าว สภ.บ้านไผ่ ร่วมกับ ตำรวจท่องเทีย่วและตำรวจคตรวจคนเข้าเมือง ได้รายงานรายละเอียดให้ สถานกงสลุใหญ่ สปป.ลาว ประจำประเทศไทย ได้รับทราบแล้ว และทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ส่งรองกงสุลใหญ่ฯ มาร่วมติดตามคดีดังกล่าวนี้ ทั้งนี้ยังได้หารือกันว่า หลังเสร็จสิ้นการแจ้งความ และตรวจร่างกายของแพทย์แล้วนั้น ผู้เสียหายจะเดินทางกลับไปพักกับญาติใน กรุงเทพฯ หรือว่าจะอยู่ในความดูแลของฝ่ายใด เพราะยังต้องมีการสอบสวนในหลายขั้นตอน และหากการสอบสวนผู้เสียหายยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็จะขยายเวลาให้ผู้เสียหายอยู่ในประเทศไทยต่อไปได้อีกตามการร้องขอของพนักงานสอบสวน