กนง.มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% รอประเมินผลกระทบหลากปัจจัยอีกรอบ หั่นจีดีพีปีนี้เหลือโต 3.8% จากเดิม 4.0% ผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัว-ส่งออกวูบ นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.)เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กนง.มีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ1.75 ต่อปี และปรับลดประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้เหลือโตร้อยละ 3.8 จากเดิมร้อยละ 4 ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 2563 ขยายตัวร้อยละ 3.9 ผลจากการส่งออกปีนี้ที่คาดขยายตัวชะลอลงโตร้อยละ 3 จากเดิมคาดขยายตัวร้อยละ 3.8 และปี2563โตร้อยละ 4.1 ผลจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และผลจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อเนื่อง ทั้งนี้แม้ว่าประมาณการเศรษฐกิจไทย จะปรับลดลงบ้าง แต่เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ใกล้เคียงกับศักยภาพ เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ต่อเนื่องปีนี้โตร้อยละ 3.9 การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ4.4 ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาดโตร้อยละ 6.1 ส่วนหนึ่งผลจากความล่าช้าของโครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจบางแห่ง ขณะเดียวกันยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตาม การปรับตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ การขยายสินทรัพย์ของสหกรณ์ออมทรัพย์ รวมทั้งทิศทางการก่อหนี้ของภาคครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่อาจประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร ทั้งนี้การลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินในช่วงต่อไปยังจำเป็นที่จะต้องได้รับ การดูแลด้วยเครื่องมือที่หลากหลายทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสม มาตรการกำกับดูแลสถาบันการเงินและมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน “คณะกรรมการ กนง.จะติดตามความเสี่ยงด้านต่างประเทศ จากทั้งมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และเศรษฐกิจประเทศอุตสาหกรรมหลักที่จะส่งผลมาสู่อุปสงค์ในประเทศ รวมทั้งจะติดตามความคืบหน้าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป”