ให้แจ้งนายทะเบียนอำเภอหรือท้องถิ่นที่มีชื่อในทะเบียนบ้าน จะแจ้งเองหรือให้คนอื่นยื่นแทนหรือส่งไปรษณีย์ได้ 7 วันก่อนหรือหลังเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นเจอถูกจำกัดสิทธิการเมือง 5 ประการ นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม.เปิดเผยว่า กฎหมายกำหนดให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนต้องออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้เนื่องจากมีเหตุจำเป็น ให้แจ้งเหตุต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยทำเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุเลขประจำตัวประชาชนและที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน ซึ่งสามารถแจ้งด้วยตัวเองหรือมอบหมายให้ผู้อื่นไปยื่นแทน หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ (นับวันประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ) ภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง (17-23 มี.ค. 62) หรือภายใน 7 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง (25-31 มี.ค. 62) ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแต่ไม่ได้ออกไปใช้สิทธิตามที่ลงทะเบียนไว้ ต้องแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งฯ ตามรายละเอียดดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 35 ระบุไว้ว่า ผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะต้องถูกจำกัดสิทธิทางการเมือง 5 ประการ ดังนี้ 1) ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2) สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา 3) สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ 4) ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา และ 5) ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย