เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวชี้แจงเรื่องหีบบัตรออกเสียงประชามติ ว่า หีบดังกล่าว กกต.ได้จัดทำขึ้นมา เพื่อทดแทนหีบบัตรเดิมที่เป็นหีบกระดาษ ซึ่งหีบกระดาษดังกล่าวเริ่มใช้เมื่อ กกต. รุ่นที่ 2 ที่ได้มีการนำหีบกระดาษมาใช้แทนหีบเหล็ก ซึ่งมีปัญหาในเรื่องของการจัดส่ง และเรื่องของน้ำหนัก แต่หีบกระดาษมีข้อดีคือ น้ำหนักเบา ต้นทุนต่ำ อยู่ที่เพียง 140-180 บาท/ใบ แต่ใช้งานได้เพียง 1-2 ครั้ง ก็จะมีการฉีกขาด และเสื่อมสภาพไป ทางสำนักงานกกต.จึงได้มีการเสนอให้จัดทำหีบรูปแบบใหม่ เพื่อแก้ปัญหาหีบรูปแบบเก่าๆ โดยทางสถาบันพลาสติกได้ทำการออกแบบให้ มีรายละเอียดคือ ทำจากเม็ดพลาสติก 100 % และเป็นพลาสติกเกรดเอ การจัดซื้อจัดจ้างนั้นดำเนินการโดยสำนักงานกกต. โดยได้ทำการประกวดราคากัน และเลือกราคาที่ต่ำที่สุดมา คือ 243.96 บาท/ใบ ซึ่งขณะนี้ได้ทำการผลิตและแจกจ่ายไปยังจังหวัดต่างๆเรียบร้อยแล้ว เป็นจำนวน 50,000 ใบ นายสมชัย กล่าวว่า ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ตั้งข้อสังเกตว่าหีบบัตรดังกล่าวที่นำมาใช้ ไม่มีฝาปิด และไม่มีล็อคด้วยกุญแจใดๆ อาจจะทำให้เกิดการโกงได้โดยง่าย จึงอยากจะขอชี้แจงว่า การปิดหีบ จะใช้สายรัดในการปิดล็อคฝาหีบ โดยสายรัดดังกล่าวมีความแข็งแรง หากปิดเข้าล็อคอย่างดีจะไม่สามารถดึงออกได้ พร้อมยืนยันว่า ในตลอดระยะเวลา 8 ชั่วโมง ของการออกเสียงประชามติ จะไม่สามารถมีใครเปิดหีบบัตรออกเสียงได้ สุดท้ายนายสมชัย กล่าวยืนยันว่า การออกแบบหีบดังกล่าวนั้น เพื่อใช้ในการออกเสียงประชามติ หรือการเลือกตั้ง ตามปกติ และบอกว่าต้องขออภัยที่เมื่อวานนี้ โยนหีบรุนแรง ปกติแล้วหีบบัตรก็คงไม่ได้ถูกโยนอย่างรุนแรงเช่นนั้น ปกติมีการขนส่งอย่างระมัดระวัง ถ้าใช้งานปกติ มีการดูแล แน่นอนว่าจะใช้งานได้อย่างน้อยเป็น 10 ปี ส่วนตัวคิดว่าถ้าใช้ไปประมาณสัก 5 ปี อาจมีการเหลืองไปบาง หรืออาจจะต้องมีการทำมดแทนขึ้นมาบ้าง ถ้าเทียบกับปกติแล้วที่เคยใช้หีบกระดาษก็ใช้ได้เพียงแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น