กรมบังคับคดี กรมสรรพากรลงนามบันทึกข้อการจัดเก็บอากรแสตมป์ สำหรับตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์เกี่ยวกับการขายทอดตลาดทรัพย์สิน และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลล้มละลาย เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่19 มีนาคม 2562 ที่กรมสรรพกร ถนนพหลโยธิน ชอย 7 กรมบังคับคดี และกรมสรรพากร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจัดเก็บอากรแสตมป์แทนกรมสรรพากร สำหรับตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากรที่เกี่ยวกับการขายทอดตลาดทรัพย์สิน และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์หรือพิพากษาให้ล้มละลาย โดยมีนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี และดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ร่วมลงนาม ณ ห้องพระอุเทน 2 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือระหว่างกรมบังคับคดีและกรมสรรพากรในครั้งนี้ เป็นเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะดำเนินการเพื่อให้กรมบังคับคดีสามารถจัดเก็บและนำส่งเงินค่าอากรแสตมป์เป็นรายได้แผ่นดินแทนกรมสรรพากร ไม่ต้องยื่นแบบต่อกรมสรรพากร เพื่อลดขั้นตอน ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง สำหรับตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากรที่เกี่ยวกับการขายทอดตลาดได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยกรมสรรพากรจะดำเนินการแต่งตั้ง “เจ้าพนักงานบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย และเจ้าหน้าที่ของกรมบังคับคดีตามที่อธิบดีกรมบังคับคดีมอบหมาย เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ ที่จะดำเนินการจัดเก็บอากรแสตมป์ และนำส่งเงินค่าอากรแสตมป์เป็นรายได้แผ่นดินแทนกรมสรรพากรตามระเบียบของทางราชการ สำหรับตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากรที่เกี่ยวกับการขายทอดตลาด โดยใช้วิธีนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน นอกจากนี้ กรมบังคับคดีจะอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์หรือพิพากษาให้ล้มละลายผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบยืนยันข้อมูลบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์หรือพิพากษาให้ล้มละลายที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบภาษีอากร การตรวจคืนภาษีอากร การอุทธรณ์ การเร่งรัดภาษีอากรค้าง การใช้มาตรการบังคับทางปกครอง การดำเนินคดี และการดำเนินการอื่นใด ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของกรมสรรพากร ซึ่งความร่วมมือดังกล่าว เป็นการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการข้อมูล และอำนวยประโยชน์ความสะดวกให้แก่ประชาชน ผู้ต้องติดต่อราชการของทั้ง 2 หน่วยงาน และเป็นไปตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 การขับเคลื่อนกระบวนการทำงานและบริหารจัดการสู่ความเป็นเลิศ กลยุทธ์ที่ 4 การสร้างสัมพันธภาพความร่วมมือภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานเพื่อลดขั้นตอน ระยะเวลา และค่าใช้จ่าย ด้าน ดร. เอกนิติ นิติพัฒน์ประภาส อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ได้ร่วมลงนามใน บันทึกข้อตกลง มาด้วยการจัดเก็บ อากรแสตมป์ แทนคุณสรรพากร สำหรับตราสาร ที่ต้อง เสียอากรแสตมป์ ตามประมวลรัษฎากร กรณีเกี่ยวกับ การขายทอดตลาด ทรัพย์สิน บันทึกความเข้าใจ ด้วยการเชื่อมโยง ข้อมูลบุคคล ที่ศาลมีคำสั่ง พิทักษ์ทรัพย์ หรือพิพากษา ให้ล้มละลาย โดยผู้บริหารของ 2 หน่วยงาน ร่วม ร่วมเป็นสักขีพยาน ดร.เอกนิติ กล่าวอีกว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการยกระดับ ประสิทธิภาพ การดำเนินงานของภาครัฐ เป็นการเปลี่ยนผ่าน การทำงานของภาครัฐ เป็นดิจิทัล สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ของกรมสรรพากร ในด้านดิจิทัล เป็นการปรับปรุงการบริการ ของกรมสรรพากรให้ก้าวหน้า ในด้านเทคโนโลยี และการเชื่อมโยงข้อมูล งานอื่น ช่วยให้การปฏิบัติงาน มีความรวดเร็วถูกต้อง และลดต้นทุน ในการดำเนินกงานของภาครัฐ