มทส. ต่อยอดงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ อนุญาตให้ใช้สิทธิในเทคโนโลยี กรรมวิธีการผลิตน้ำส้มและน้ำมะนาวผงด้วยวิธีการพ่นฝอยแบบแช่เยือกแข็ง เมื่อช่วงสายวันที่ 18 มีนาคม ที่ห้องประชุมสารนิเทศ อาคารบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ( มทส.) นครราชสีมา รองศาสตราจารย์ ดร.บุญชัย วิจิตรเสถียร รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์แผน และงบประมาณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พร้อมรองศาสตราจารย์ ดร.มาโนชญ์ สุธีรวัฒนานนท์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมลงนามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในเทคโนโลยีกรรมวิธีการผลิตน้ำส้มและน้ำมะนาวผงด้วยวิธีการพ่นฝอยแบบแช่เยือกแข็ง กับนางสาวพีรดา ศุภรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทสเต็ด เบ็ตเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อนำไปสู่การผลิตและจำหน่ายในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีจุดเด่นด้านรักษาคุณค่าทางด้านโภชนาการ รวมถึงประสาทสัมผัสด้านสี กลิ่น และรสชาติ ได้ใกล้เคียงกับน้ำส้มและน้ำมะนาวคั้นสด รองศาสตราจารย์ ดร.บุญชัย ฯ รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ แผน และงบประมาณ มทส. กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัย ให้สามารถขยายผลไปสู่การบริการทางวิชาการ การให้คำแนะนำปรึกษาแก่บุคคลภายนอก โดยการปรับแปลงถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมถึงการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวหน้าได้ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา ส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรม ส่งผลให้มหาวิทยาลัยมีทรัพย์สินทางปัญญาอันเกิดจากผลงานวิจัยที่มีศักยภาพสูง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญา เรื่อง “กรรมวิธีการผลิตน้ำส้มและน้ำมะนาวผงด้วยวิธีการพ่นฝอยแบบเยือกแข็ง” ผลงานวิจัยของ รองศาสตราจารย์ ดร.มาโนชญ์ สุธีรวัฒนานนท์ ซึ่งได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว สำหรับการอนุญาตให้ใช้สิทธิในเทคโนโลยีนี้ ถือเป็นการสนับสนุนให้เกิดการนำผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อย่างแท้จริง อีกทั้งยังก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม ที่จะนำไปสู่การผลิตและจำหน่ายในภาคการตลาดและอุตสาหกรรมต่อไป” นางสาวพีรดา ฯ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทสเต็ด เบ็ตเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวด้วยว่า “บริษัทฯ เล็งเห็นถึงคุณค่าในเทคโนโลยีดังกล่าวที่นำข้อดีของการฟรีซดราย หรือ การทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง กับ สเปรย์ดราย หรือ การทำแห้งแบบพ่นฝอย เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้คงคุณภาพ คงสารอาหาร สี กลิ่น รสชาติ อยู่ได้มากที่สุดเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทำได้เร็วกว่าเทคโนโลยีเดิม โดยกรรมวิธีการผลิตน้ำส้มและน้ำมะนาวผงด้วยวิธีการพ่นฝอยแบบแช่เยือกแข็ง สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคและแนวโน้มทางการตลาดได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การแปรรูปน้ำสับปะรดผง ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการจัดการอาหารที่ไม่เป็นระบบ เช่น การเก็บรักษาผลไม้สดที่เสียได้ง่ายหลังเก็บเกี่ยว แต่เมื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้เป็นผง สามารถเก็บรักษาได้นานและนำไปใช้ต่อในการผลิตอื่น ๆ ได้ง่าย ช่วยลดต้นทุนในการผลิตลง ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องร่วมกับ มทส.ในโอกาสต่อไปด้วย” ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.มาโนชญ์ ฯ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มทส. เปิดเผยว่า “กรรมวิธีการผลิตน้ำส้มและน้ำมะนาวผงด้วยวิธีการพ่นฝอยแบบแช่เยือกแข็ง ได้ศึกษาเพื่อหาสภาวะและวิธีการแปรรูปผลไม้เพื่อเพิ่มมูลค่า โดยนำ 2 วิธีมารวมกัน คือ Spray drying และ Freeze drying เป็น Spray Freeze drying Technology เพื่อแก้ปัญหาผลิตภัณฑ์หรือวัตถุดิบที่ไวต่อความร้อน และต้องการรักษาคุณค่าทางอาหาร รสชาติ กลิ่น สี ให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด รวมถึงทำให้อาหารนั้นปลอดภัย เก็บรักษาได้นาน และนำไปใช้ได้อย่างสะดวก ซึ่งกรรมวิธีดังกล่าวเป็นวิธีการแปรรูปที่ทดแทนการใช้ผลไม้สดได้อย่างสมบูรณ์กว่าการแปรรูปแบบอื่น ๆ เนื่องจากสามารถเก็บรักษาคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ กล่าวคือ การทําให้น้ำส้มและน้ำมะนาวอยู่ในรูปผง เมื่อต้องการใช้งานก็เพียงนำมาละลายน้ำให้คืนรูป ซึ่งยังคงคุณภาพของอาหาร เช่น สี กลิ่น รสชาติ ได้ดีใกล้เคียงกับผลไม้สดก่อนการแปรรูป ต่างจากการแปรรูปที่ใช้ความร้อนที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพของอาหาร ทั้งคุณค่าทางโภชนาการ กลิ่น สี และรสชาติที่สูญเสียไป นอกจากนี้ เทคนิคการพ่นฝอยแบบแช่เยือกแข็งยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างหลากหลายอีกด้วย เช่น น้ำสับปะรดผง สามารถนำไปผสมกับเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น นมสด กาแฟ เสาวรส โดยไม่ไปเพิ่มปริมาณน้ำหรือทำให้รสชาติของเครื่องดื่มดั้งเดิมเสียรสไป”