นายกฯ เยือนนครฯ ขอโอกาสทำงานต่อ หยอด หัวใจ 68 ล้านห้องทุ่มเทเพื่อชาติ ลั่นไม่ขัดข้อง เดินหน้าสู่ประชาธิปไตย บอก ถ้าไม่มีโอกาสก็มีความสุข ได้พักผ่อน ไม่ต้องเครียด ย้ำไม่เคยทวงบุญคุณใคร แต่ทำเพื่อปท. รับอึดอัดทุกจับตามอง วอนปชช. อย่าเพิ่งเกลียดชังฉันนักเลย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พร้อมด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยเครื่องบิน C-130 ไปที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ในการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครศรีธรรมราช ติดตามการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก ทั้งด้านการดำรงชีพ การประกอบอาชีพและสิ่งสาธารณประโยชน์ต่างๆ สืบเนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนปาบึก ในช่วงระหว่างวันที่ 2-5 มกราคม 2562 ส่งผลให้เกิดวาตภัยและฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมฉับพลันทั่วจ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 23 อำเภอ มีผู้ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก จากนั้นเวลา 13.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ก่อนเดินทางไปโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา ด้วยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว ทะเบียน 1333 เพื่อตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และพบนักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ทั้งนี้นายสายัณห์ ยุติธรรม ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จ.นครศรีธรรมราช เขต 7 ได้นำมวลชนให้การต้อน โดยทันทีที่นายกฯ มาถึงนายสายัณห์ได้เข้าไปทักทายแนะนำตัวด้วย โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า เราลำบากกันมานานแล้ว เรากำลังนำทุกคนไปสู่วันข้างหน้า ชีวิตที่ดีกว่า มีหลักประกันที่มั่นคงและยั่งยืน จากการที่ตนเป็นนายกฯ บริหารราชการมา ทำให้รู้ว่าทุกอย่างไม่ง่าย หลายอย่างทำได้และหลายอย่างไม่สามารถทำได้ เพราะประเทศมีพี่น้องประชาชน หลายวัยหลายอาชีพ หลายความคิด รัฐบาลได้ผลักดันการปฏิรูปประเทศ และหลายอย่างจะเกิดผลในอีกหลายปีข้างหน้า การปฏิรูปประเทศไม่ใช่การสั่งปากเปล่าจะสำเร็จได้ต้องมีหลักการ ประเทศไทยเปรียบเสมือนร่างกาย คนที่พร้อมจะเติบโต แต่ยังไม่แข็งแรง มือซ้ายและมือขวายังแข็งแรงไม่เท่ากัน มือขวาเปรียบเหมือนคนรวย ขณะที่มีซ้าย จะเป็นเกษตรกร จึงต้องเอามือขวามาจับมือซ้าย เพื่อเดินไปข้างหน้าด้วยกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การที่เราจะเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยในระยะเวลาอันใกล้ยืนยัน ว่าตนไม่เคยขัดข้อง เคยระบุไว้แล้วว่าพร้อมเมื่อไหร่ก็ต้องมีการเลือกตั้ง ก็ขอให้ดำเนินการไป แต่สิ่งที่ตนกังวลคือจะเดินหน้าไปอย่างไร หลังการเลือกตั้งแล้ว สิ่งที่อยากจะขอจากพ่อแม่พี่น้องประชาชน คือความสงบเรียบร้อย การอยู่อย่างปรองดองสมานฉันท์ และพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เพราะไม่มีใครอยู่คนเดียวได้ ทั้งนี้หากใครมาบอกว่า จะให้ประชาชนรวยขึ้นด้วยการที่รัฐให้เพียงอย่างเดียว ไม่มีทางเป็นไปได้ มีแต่จะจนและทำให้ประเทศจนตามไปด้วย “800 ปีประเทศไทยเจริญขึ้นมา จากพระมหากษัตริย์ มีข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ทุ่มเทเสียสละ ตายเจ็บมาเท่าไหร่ ครอบครัวต้องเสียใจเท่าไหร่ จึงขออย่ามองเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง วิชาการมีความสำคัญ เพราะหลักคิดมีอยู่ในหนังสือสรุปมาจากทุกประเทศ ขึ้นอยู่ที่คุณจะต้องนำหลักการมาปฏิบัติไม่ใช่ทำอย่างสะเปะสะปะ ทั้งนี้ ถ้าสมมุติว่าได้ทำงานต่อ ก็จะทำในสิ่งที่ได้พูดมา ทำให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง แล้วทุกอย่างจะเป็นห่วงโซ่สร้างความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน ความสงบเรียบร้อยความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการใช้งบอย่างฟุ่มเฟือย เพื่อความพอใจ จะเป็นแบบนั้นอีกไม่ได้“ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “วันหน้าถ้าผมมีโอกาส ผมจะทำให้ ถ้าไม่มีโอกาส ผมก็มีความสุข โดยการพักผ่อน ไม่ต้องเครียด และเสียงดังหรือต้องปวดหัวแบบนี้ ผมไม่ได้ทวงบุญคุณใคร เพราะผมทำให้ประเทศของผม เพราะแผ่นดินนี้ก็ทวงบุญคุณผม ที่ได้เหยียบแผ่นดินนี้มา 65 ปี ผมทำให้แผ่นดินของผม แล้วเป็นแผ่นดินของท่าน ซึ่งก็ต้องทำของท่านเอง แต่ในฐานะรัฐบาล ก็มีหน้าที่ต้องทำให้ประชาชนด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ใช่เป็นผู้ให้ หรือจะให้เป็นเงินเพียงอย่างเดียว แต่ต้องให้ความรู้ควบคู่ไปด้วย รวมถึงการให้ปัจจัยพื้นฐานโครงสร้างที่จำเป็น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครก็ตามที่พูดว่าจะล้มนู้นล้มนี่ ขอให้ดูกฎหมาย ทำได้หรือไม่ เช่น ล้มสัมปทาน ลดราคาจากข้อตกลงในสัมปทาน ทำได้หรือไม่ ขออย่าไปฟังข้อมูลผิดๆ หลายคนเอาตนไปอยู่ในความขัดแย้ง ทั้งที่ตนไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่ได้ขัดแย้งกับใคร ตนอยู่ของตนเฉยๆ เมื่อมีความขัดแย้ง ก็เข้ามาแก้ปัญหา เพราะไม่มีวิธีการอื่นแก้ปัญหานี้ ขออย่าลืมอดีต เพื่อนำมาขับเคลื่อนอนาคต วันนี้ก็ให้ใจแก่ประชาชน มีหัวใจเท่ากำปั้น แต่มันต้องยิ่งใหญ่ ทุกคนมีหัวใจ 2 ห้อง แต่สำหรับนายกฯหัวใจวันนี้ 68 ล้านห้อง “ทุกคนจะเดินไปพร้อมกับผมหรือไม่ แม้จะเดินบ้างวิ่งบ้างหรือคลานบ้าง แต่ประเทศต้องเดินหน้าไป สิ่งสำคัญคือขึ้นอยู่กับทุกคน ซึ่งวันนี้ถูกจับตามองในหลายอย่าง ผมก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน แต่ผมก็ต้องทำงานต่อ จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ อย่าเพิ่งเกลียดชังฉันนักเลย ผมแต่งเพลงมาทั้งหมด 8 เพลง อย่าเอาเพลงแรกมาทวงสัญญามา บอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน การทำงานให้ประเทศ 5 ปีถือว่าไม่นาน การเลือกตั้งจะใครก็แล้วแต่ ท่านเลือกกันเอาเอง นี่คือประเทศไทย เราต้องเข้มแข็งไปด้วยกัน ต้องรักสามัคคี” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทุ่มเททำงาน เหนื่อยก็ไม่ท้อ และก็สู้ ซึ่งทุกคนต้องสู้ไปด้วยกัน อย่าปล่อยให้สู้คนเดียว ทั้งนี้ ส่วนตัวเป็นคนใจดี อารมณ์ดี ตลก บางครั้งก็ดุ โมโห แค่นั้นเอง เหมือนการมีลูกหลายคน เมื่อลูกเกเร ก็ต้องดุบ้างเพราะจะเป็นภัย ยืนยันว่าการมาวันนี้ไม่ใช่การหาเสียง จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์และคณะ เดินทางมายังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ และเข้าสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งนายกฯ และคณะได้ร่วมพิธีแห่ผ้าขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุร่วมกับประชาชน ทั้งนี้บรรยากาศที่วัดมหาธาตุฯ เป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนมารอต้อนรับนายกฯ พร้อมขอถ่ายรูปกับนายกฯ ตลอดทาง โดยได้มอบดอกไม้ให้กำลังใจ และบอกรักนายกฯ ซึ่งนายกฯ บอกให้รักกันนานๆ ทั้งนี้มีหญิงวัยกลางคนหนึ่งนำเหรียญขุนพันธ์มามอบให้กับนายกฯ เพื่อปกป้องดูแลนายกฯ ให้ทำงานเพื่อประเทศต่อไปนานๆ