วันที่ 16 มีนาคม 2562 เวลา 01.00 น.พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร.พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ตร.(TACTICS) ตำรวจ บก.น.8 กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติการปราบปรามการแข่งรถในทางฯ ,ผู้ต้องหาตามหมายเรียกที่ออกมารวมตัวแข่งรถในทางสาธารณะ ตรวจรถ จยย.ขนาดใหญ่(บิ๊กไบค์)ที่มีท่อไอเสียระดับเสียงดังเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด(95เดซิเบล) และตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ เก็บตัวอย่าง DNA พร้อมจับกุมเด็กเยาวชนและยึดรถ จยย.ที่ออกมารวมกลุ่มมั่วสุม ฝ่าฝืนประกาศคำสั่ง คสช.ที่22/2558 ตามจุดต่างๆเพื่อเตรียมแข่งขันรถในพื้นที่ บก.น.8
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. หน.ชุดปฏิบัติการตามคำสั่ง ผบ.ตร. รอง ผอ.ศปอส.ตร.(TACTICS) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร.,พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.5 บก.จร. ,ผกก.ในสังกัด บก.น.8 ,พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก รอง ผกก.3 บก.จร. และชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร. ชุดที่ 35 ปฎิบัติการกวดขันการแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.8 สืบเนื่องจากปัญหาความเดือดร้อนรำคาญของประชาชนผู้พักอาศัยย่านราษฎร์ บูรณะเกี่ยวกับปัญหา กลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งรถในทาง จึงมีการร้องเรียนปัญหาดังกล่าวผ่านทางศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (TACTCS)และศูนย์วิทยุ 191 ว่าตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น. ได้มีเด็กและเยาวชนออกมารวมกลุ่ม มั่วสุม ในลักษณะนำไปสู่การแข่งรถในทางสาธารณะมีจำนวนกว่า 100 คัน ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมากบน ถนนพุทธบูชา กรุงเทพฯ ชุด ศปอส.ตร. ร่วมกับ บช.น. ,บก.จร.,บก.น.8ละ กก.ดส. ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาพยานหลักฐานโดยใช้เทคโนโลยีจนสามารถถ่ายภาพนิ่งและภาพวีดีโอผู้ขับขี่ในลักษณะมั่วสุมรวมกลุ่มแข่งรถในทางฯได้ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้ออกหมายเรียกผู้ครอบครองรถมาเพื่อสอบสวนหาผู้ขับขี่ที่รวมกลุ่มแข่งรถในทางจำนวน 20 ราย และได้มีผู้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้วจำนวน 10 ราย ส่วนรายที่เหลือจะติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อไป
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อเสีย 22 ร้าน ไม่พบการกระทำความผิด ยึดของกลางมาตรวจสอบ 75 รายการนอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติในการตรวจวัดระดับเสียงและการวัดค่ามาตรฐานที่ถูกต้องตามหลักสากลตรวจวัดระดับเสียงท่อไอเสียที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (95 เดซิเบล) ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากโดยตรวจรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์)จำนวนทั้งหมด 68 คัน พบมีท่อไอเสียเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานกำหนดจำนวน 32 คัน จึงได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท และออกคำสั่งห้ามใช้รถเป็นเวลา 30 วัน ตลอดจนตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22 และ 46/2558 โดยได้ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 104 คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน 29 ราย ผู้ใหญ่ 71 ราย รวมทั้งหมด 100 ราย โดยตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเก็บตัวอย่าง DNA
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวอีกว่าขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะว่าผู้ที่ฝ่าฝืนออกมารวมกลุ่มในลักษณะที่จะนำไปสู่การแข่งรถในทางฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามและใช้เทคโนโลยีสามารถเก็บภาพผู้ที่ออกมารวมตัวแข่งรถฯ ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย และผู้ขับขี่ รถจักรยายนต์คันใหญ่(บิ๊กไบค์) ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชน ยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. หน.ชุดปฏิบัติการตามคำสั่ง ผบ.ตร. รอง ผอ.ศปอส.ตร.(TACTICS) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร.,พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.5 บก.จร. ,ผกก.ในสังกัด บก.น.8 ,พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก รอง ผกก.3 บก.จร. และชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร. ชุดที่ 35 ปฎิบัติการกวดขันการแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.8 สืบเนื่องจากปัญหาความเดือดร้อนรำคาญของประชาชนผู้พักอาศัยย่านราษฎร์ บูรณะเกี่ยวกับปัญหา กลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งรถในทาง จึงมีการร้องเรียนปัญหาดังกล่าวผ่านทางศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (TACTCS)และศูนย์วิทยุ 191 ว่าตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น. ได้มีเด็กและเยาวชนออกมารวมกลุ่ม มั่วสุม ในลักษณะนำไปสู่การแข่งรถในทางสาธารณะมีจำนวนกว่า 100 คัน ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมากบน ถนนพุทธบูชา กรุงเทพฯ ชุด ศปอส.ตร. ร่วมกับ บช.น. ,บก.จร.,บก.น.8ละ กก.ดส. ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาพยานหลักฐานโดยใช้เทคโนโลยีจนสามารถถ่ายภาพนิ่งและภาพวีดีโอผู้ขับขี่ในลักษณะมั่วสุมรวมกลุ่มแข่งรถในทางฯได้ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้ออกหมายเรียกผู้ครอบครองรถมาเพื่อสอบสวนหาผู้ขับขี่ที่รวมกลุ่มแข่งรถในทางจำนวน 20 ราย และได้มีผู้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้วจำนวน 10 ราย ส่วนรายที่เหลือจะติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อไป
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อเสีย 22 ร้าน ไม่พบการกระทำความผิด ยึดของกลางมาตรวจสอบ 75 รายการนอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติในการตรวจวัดระดับเสียงและการวัดค่ามาตรฐานที่ถูกต้องตามหลักสากลตรวจวัดระดับเสียงท่อไอเสียที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (95 เดซิเบล) ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากโดยตรวจรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์)จำนวนทั้งหมด 68 คัน พบมีท่อไอเสียเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานกำหนดจำนวน 32 คัน จึงได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท และออกคำสั่งห้ามใช้รถเป็นเวลา 30 วัน ตลอดจนตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22 และ 46/2558 โดยได้ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 104 คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน 29 ราย ผู้ใหญ่ 71 ราย รวมทั้งหมด 100 ราย โดยตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเก็บตัวอย่าง DNA
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวอีกว่าขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะว่าผู้ที่ฝ่าฝืนออกมารวมกลุ่มในลักษณะที่จะนำไปสู่การแข่งรถในทางฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามและใช้เทคโนโลยีสามารถเก็บภาพผู้ที่ออกมารวมตัวแข่งรถฯ ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย และผู้ขับขี่ รถจักรยายนต์คันใหญ่(บิ๊กไบค์) ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชน ยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป