แก๊งตุ๋นใบหวยออกอาละวาดจังหวัดบึงกาฬ แต่งตัวภูมิฐานสวมสร้อยแหวนเส้นใหญ่ใช้รถเก๋งหรูดูดีมีฐานะมีทั้งแต่งตัวปลอมเป็นพระสงฆ์หลอกเหยื่อใช้เงินแบงค์ 10 เก่าทำหวยได้ถูกมาหลายงวดหลักล้านบาทจนมีเงินสร้างโบสถ์สร้างศาลาวัดพาเหยื่อไปดูวัดกำลังก่อสร้าง จนตายใจเชื่อสนิทยอมควักเงินแสนออกมาลงทุน นัดกันวันนี้จะบอกหวยสุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆ วันที่ 16 มี.ค. เวลา 09.30 น.ที่วัดป่าบ้านห้วยเรือ ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ พ.ต.ท.อรุณ รักสัตย์ รอง ผกก.สส.สภ.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ ร.ต.อ.วิทยา รอบรั้ว รอง สว.สส.พร้อมตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและรวบรวมพยานหลักฐานคดี 4 คนร้ายแต่งตัวภูมิฐานเป็นชาย 3 คน หญิง 1 คนใช้รถเก๋ง 2 คันมีสีขาวและสีดำไม่ทราบทะเบียนและยี่ห้อเป็นยานพาหนะเข้าไปหลอกลวง นายฉลอง สุวรรณโคตร อายุ 57 ปีขณะอยู่ในบ้านเลขที่ 119 หมู่ที่ 8 บ้านสายปัญญา ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ อ้างว่าหลงทางจะไปวัดป่าบ้านห้วยเรือเพื่อไปทำหวยโดยใช้เงินแบงค์ 10 รุ่นเก่าและพระรูปหนึ่งทำหวยได้มีคนถูกมาหลายงวดและพวกตนก็ถูกมาหลายล้านแล้วเช่นกัน ขณะนี้กำลังนำเงินที่ถูกหวยไปสร้างโบสถ์และศาลาวัดอยู่ ทำให้นายฉลองและภรรยาหลงเชื่อมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงนำเงินมาร่วมลงทุนด้วยรวมเป็นเงิน 62,000 บาท จึงนัดกันมาทำพิธี ทีวัดป่าบ้านห้วยเรือ โดยคนร้ายออกอุบายให้นำดอกไม้แดงมาด้วยและให้นำเงินที่จะซื้อหวยลงในบาตรพระ ลงทุน 14,000 บาท จะได้ 1 ล้านบาท อยากได้มากก็ต้องลงทุนซื้อมาก ขณะไปถึงวัดมีพระรูปหนึ่งทำพิธีอยู่ภายในกุฎี หลังทำพิธีเสร็จแก๊งใบหวยบอกให้ขับรถนำดอกไม้ที่เข้าพิธีไปโปรยในนำไหล พอกลับมาพบว่าแก๊งใบ้หวยทั้งพระทั้งโยมหายขับรถเก๋ง 2 คันหนีไปพร้อมกับเงินสด 62,000 บาทติดต่อทางโทรศัพท์ก็ไม่ได้จึงรู้ว่าถูกหลอก และเข้าแจ้งความที่ สภ.เซกาเมื่อวานผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ พ.ต.ท.อรุณ. รักสัตย์ รอง ผกก.สส.กำลังเก็บรวบรวมหลักฐานอยู่นั้นได้มี นางละมัย รสบุ้ง อายุ 51 ปี และนายสำราญ รสบุ้ง อายุ 53 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ที่ 3 บ้านดอนเสียด ต.บ้านต้อง อ.เซกา เดินเข้ามาพบแจ้งว่าถูกแก๊งตุ๋นใบ้หวยกลุ่มนี้หลอกเหมือนกัน เมื่อ 2 วันก่อนคนร้ายได้เข้าไปพบที่บ้านทำทีซื้อของกินของใช้ซึ่งบ้านเปิดเป็นร้านขายของทั่วไปในหมู่บ้าน โดยวิธีการหลอกลวงคล้ายๆ กัน มีการแลกเบอร์โทรศัพท์และบอกว่าถ้าหากถูกหวยให้มาทำบุญกับวัดนี้เท่านั้นจึงหลงเชื่อว่าเป็นพระและญาติโยมที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ เนื่องจากเข้ามาในวัดก็กำลังมีการก่อสร้างศาลาวัดอยู่ด้วยจึงเชื่อสนิทใจ นางละมัยกล่าวว่าตนมีเงินสดในร้าน 70,000 บาท ส่วนสามีเอาทองไปจำนำได้ 50,000 บาท รวมเป็นเงิน 120,000 บาทได้มอบให้คนร้ายไปพร้อมธนบัตรราคา 10 รุ่นเก่า 1 ฉบับ โดยคนร้ายบอกว่าจะเอาไปเข้าพิธีทำหวยเสร็จแล้วนัดกันวันที่ 16 มี.ค.ให้มาพบกันที่วัดป่าบ้านห้วยเรือ ซึ่งมาแล้วไม่พบโทรศัพท์ติดต่อก็ไม่ได้ จึงรู้ว่าถูกหลอกเช่นกัน พ.ต.ท.อรุณ. รักสัตย์ รอง ผกก.กล่าวว่าหลังจากนำหมายเลขโทรศัพท์ไปตรวจเช็คพอทราบชื่อตัวคนร้ายกลุ่มนี้บ้างแล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 5 คนรวมที่แต่งตัวเลียนแบบพระสงฆ์ด้วย และกำลังแกะรอยตามกล้องทีวีวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ คาดว่าจะสามารถออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหาหลอกลวงประชาชนได้ในเร็วๆ นี้ และขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่าพึ่งหลงเชื่อบุคคลแปลกหน้าหรือคนที่อยู่ใกล้ชิด เพราะอาจถูกหลอกมาเช่นกัน