วันที่ 15 มี.ค.62 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แถลงว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่าศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งรับฟ้อง ตามที่โจทก์ยื่นฟ้องผู้บริหารรายหนึ่งของบริษัท ปตท.กรีน เอ็นเนอร์ยี จำกัด (PTTGE) เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 4 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. โดยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. มีส่วนรู้เห็นให้ผู้ถูกฟ้องที่ 1 นำเงินหรือทรัพย์สินไปติดสินบนกับพยานรายหนึ่งที่อินโดนีเซีย เพื่อให้ถ้อยคำบิดเบือนข้อเท็จจริงในคดีทุจริต ปาล์มน้ำมันอินโด ซึ่งเป็นการสร้างพยานหลักฐานเท็จ นั้น ขอชี้แจงว่าการเดินทางไปสอบพยานบุคคลที่ประเทศอินโดนีเซีย ของกรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เป็นกรณีการขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาจากประเทศอินโดนีเซียในเรื่องกล่าวหาทุจริตข้ามชาติ ซึ่งได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีผู้แทนจากกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชน แห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียในฐานะผู้ประสานงานกลางของประเทศอินโดนีเซีย และผู้แทนจากหน่วยงานต่อต้าน การทุจริตของประเทศอินโดนีเซีย (Komisi Pemberantasan Korupsi: KPK) ดำเนินการสอบพยานบุคคล ตามคำร้องขอฯ นายวรวิทย์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ในการสอบพยานดังกล่าว กรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์เท่านั้น โดยมีผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย จึงไม่มีเหตุที่กรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะกระทำการตามที่ปรากฏเป็นข่าว นอกจากนี้ กรณีปรากฏเป็นข่าวว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้รับคำฟ้องเรื่องดังกล่าวนั้น ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นการรับคำฟ้องไว้ทางธุรการเท่านั้น โดยศาลยังไม่ได้ประทับรับฟ้องตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด