วันที่ 14 มี.ค. 62 ที่ ม.ราชภัฎเชียงใหม่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. กล่าวถึงการปราบปรามแก๊งเงินกู้นอกระบบภาคเหนือ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ ว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญ เร่งรัดขับเคลื่อนแก้ไข จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการปราบปรามทั่วประเทศบังคับใช้กฎหมาย คืนที่ดินให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก ปัญหาหนี้นอกระบบได้ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม โฉนดที่ดินตกอยู่ในกลุ่มนายทุนเพียงไม่กี่คนที่ยังเอาเปรียบลูกหนี้ การปราบปรามแก๊งเงินกู้นอกระบบภาคเหนือ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ จากปฎิบัติสามารถยึดของกลางอาวุธปืน3 กระบอก โฉนดที่ดิน จำนวน 1,042 ฉบับ เนื้อที่ 1,675 ไร่ 2 งาน 34 ตรว. มูลค่า 836.5 ล้านบาท อายัดทรัพย์ ได้ 965.5 ล้านบาท จับกุมนายทุน 5 ราย มี อดีต สส.รวมอยู่ด้วย พร้อมเครือข่ายบริษัท ดีเอ็มพี แพร่ จำกัด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในประเทศที่วันนี้ต้องหยิบยกมาเป็นเรื่องแรกคือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำของประชาชนในประเทศ สิ่งสำคัญคือปัญหาหนี้นอกระบบซึ่งถูกละเลย ปล่อยทิ้งให้ประชาชนผู้เดือดร้อนต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวลำพัง ทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสมาอย่างยาวนาน ประชาชนต้องเดินทางกลับจากการเจรจาประนีประนอมหนี้ ด้วยมือเปล่าซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นสิบๆครั้ง บางรายถูกดำเนินคดีจากกลุ่มนายทุนที่ฉ้อฉลกลโกง จนแทบไม่มีที่ยืน ขาดที่พึ่งหมดศรัทธาจากเจ้าหน้าที่รัฐ และเป็นปัญหาสำคัญของประเทศและเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องเร่งรัดแก้ไขโดยเน้นย้ำให้มีการบริหารจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบ มีความต่อเนื่อง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้บูรณาการร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันในการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจัง ประกอบกับสำนักงานปปง. จะเร่งดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อให้ลูกหนี้กับเจ้าหนี้ เข้าสู่กระบวนการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ และมอบคืนโฉนดที่ดินทำกินให้พี่น้องประชาชน วันนี้ที่ 14 มี.ค.นี้ เพื่อคลายความเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันให้ความสำคัญ และตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพื่อให้ประชาชน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงกรณีที่ มีนักการเมืองที่ถูกจับกุมเตรียมออกมาตอบโต้ว่า สำหรับนักการเมืองที่ถูกจับกุม มีบางส่วนซึ่งทางเราได้มีการรายงาน กกต.ไปแล้ว และของใหม่อยู่ระหว่างการรวบรวม รายงาน กกต. วันนี้เรามีการจับกุมไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ราย ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ทั้งเรื่องหนี้นอกระบบและเรื่องการหลอกลวงประชาชนทซึ่งเป็นความผิดอาญาปกติแต่ถ้าเกี่ยวพันกับนักการเมือง หรือ ผู้สมัคร สส.ต้องรายงานไปยังทาง กกต. สรุปการดำเนินคดีตามกฎหมาย อาญาของบ้านเมืองไม่มีอะไรซับซ้อน ขอเรียนว่าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลปกติ หรือบุคคลที่สมัคร สส.พรรค หากำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี เพราะว่าเราอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่นักการเมืองออกมาตอบโต้ กรณีที่ถูกจับกุมหวั่นถูกส่งรายชื่อให้ กกต.ท่านคิดอย่างไร พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของเรื่องการตอบโต้นั้น สามารถทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ผมยืนยันว่าการทำงานเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกวันนี้ ทุกคนยึดกฎหมายเป็นหลัก ประกอบกับเราทำงานได้บูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น ปปง. DSI สรรพากร และตำรวจ เมื่อมีการทำงานร่วมกันหลายหน่วยงานยืนยันได้เลยว่าไม่มีหน่วยงานไหน ที่สามารถทำงานออกนอกกรอบได้ เพราะว่ามีการคานกันไม่หมด ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนต่างคนต่างทำ แต่ว่าวันนี้เราทำร่วมกันหลายหน่วยงานในการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว