"สุวัจน์" อ้อนคนสงขลา ถ้าเบื่อการเมืองสร้างปัญหา เลือก "ชาติพัฒนา" ชูนโยบาย แก้ยาง - ตก กู้วิกฤตเศรษฐกิจปักษ์ใต้ พร้อมบูม ท่องเที่ยวให้เฟื่องฟูเทียบเท่าฝั่งอันดามัน พร้อมหนุน "มโนราห์" เป็นศิลปวัฒนธรรมมรดกโลกต่อยูเนสโก ดึงรายได้ท่องเที่ยว วอนขอ "ชาติพัฒนา" เข้าไปทำหน้าที่
เวลา 18.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ปราศรัยหาเสียง ณ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เขตเลือกตั้งที่ 4 ของนายกันตินันท์ วัชรวรพงศ์ เบอร์ เพื่อช่วยปราศรัยหาเสียง ณ ตลาดม่วงงาม โดยมีประชาชนหลายพันคนมาร่วมฟังปราศรัย โดยนายสุวัจน์ กล่าวว่าขออาสาแก้ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำแก่คนภาคใต้เป็นอันดับแรก ทั้งสินค้าประมง หรือ สินค้าเกษตร เช่น ยางพารา และ ปาล์มน้ำมัน โดยจะดึงนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาสร้างนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมากๆ โดยเน้นการให้สิทธิพิเศษแก่นักลงทุนต่างชาติเป็นพิเศษทางด้านการลงทุนภาคเกษตรเป็นการเฉพาะ จากนี้ไปจะไม่มีการขายยางพาราแท่ง น้ำยางดิบ หรือ ยางพาราแผ่นอีกต่อไปจะต้องผลิตเป็นสินค้าอุตสาหกรรม เช่น ยางรถยนต์ เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ ตั้งเป้าหมาย 3.5 ล้านตัน ที่จะต้องนำมาผลิตเป็นสินค้าอุตสาหกรรม โดยพื้นที่ใดมีพื้นที่ปลูกยางพารา หรือ ปาล์ม จำนวนมาก
"ถ้าพี่น้องประชาชน เบื่อการเมืองแบบทะเลาะกัน หรือสร้างปัญหา ขอให้เลือกพรรคชาติพัฒนา เพราะพรรคเราเล่นการเมืองแบบนักกีฬา แพ้ก็คือแพ้ รออีก4ปี แต่เมื่อไทยไม่ถึง 1-2 ปีก็เลือกตั้งแล้ว ดังนั้นการเมืองต้องฟังเสียงประชาชน และ เคารพเสียงข้างมาในการตัดสิน เพื่อให้มีผู้ชนะหนึ่งคน เพื่อให้สังคมได้ข้อยุติ ดังนั้น ใครได้เสียงข้างมาก็ได้เป็นรัฐบาล คือ การเคารพเสียงประชาชน" นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวว่าสำหรับแนวทางการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน ประชาชนบ่นกับตนว่าปาล์มราคากิโลกรัมละ 2 บาท เพราะพื้นที่ปลูกเกินความต้องการ ล้นตลาด 7 แสนตัน หากพรรคชาติพัฒนาเข้ามาจะทำให้น้ำมันปาล์มที่ล้นตลาด 7 แสนตัน ด้วยการนำไปผลิตไบโอดีเซล บี 20 เพราะเมื่อมีภาคอุตสาหกรรมจะทำให้เกิดการพัฒนา การจ้างงาน ราคาที่ดินราคาขึ้น และ ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
นายสุวัจน์ กล่าวว่าจะเร่งสนับสนุนสินค้าประมงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และการท่องเที่ยวทะเลหาดทรายและชายฝั่ง ถือเป็นจุดแข็งในการท่องเที่ยวจะทำให้ประชาชนทั่วโลกได้รู้จัก เช่นเดียวกับฝั่งอันดามัน โดยจะสนับสนุนให้มีการก่อสร้างมารีน่า ในฝั่งอ่าวไทย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวทางทะเลให้มีเรือยอร์ท หรือ เรือสำราญ ถือเป็นนโยบายสำคัญจะทำให้การท่องเที่ยวเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศ เช่น วัฒนธรรมชุมชน สินค้าโอทอป หรือวิถีชีวิตประมงของคนในท้องถิ่นที่ จ.สงขลา ต้องมีรายได้และชีวิตที่ดีขึ้น
"พรรคชาติพัฒนา จะสนับสนุน มโนราห์ ที่เป็นศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น จะผลักดันขอให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยจะเสนอต่อองค์การยูเนสโก เพราะหากได้รับการยอมรับจะทำให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวและเรียนรู้วัฒนธรรมปักษ์ใต้ ถือเป็นการดึงดูดการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง" นายสุวัจน์ กล่าว
"ถ้าพี่น้องประชาชน เบื่อการเมืองแบบทะเลาะกัน หรือสร้างปัญหา ขอให้เลือกพรรคชาติพัฒนา เพราะพรรคเราเล่นการเมืองแบบนักกีฬา แพ้ก็คือแพ้ รออีก4ปี แต่เมื่อไทยไม่ถึง 1-2 ปีก็เลือกตั้งแล้ว ดังนั้นการเมืองต้องฟังเสียงประชาชน และ เคารพเสียงข้างมาในการตัดสิน เพื่อให้มีผู้ชนะหนึ่งคน เพื่อให้สังคมได้ข้อยุติ ดังนั้น ใครได้เสียงข้างมาก็ได้เป็นรัฐบาล คือ การเคารพเสียงประชาชน" นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวว่าสำหรับแนวทางการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน ประชาชนบ่นกับตนว่าปาล์มราคากิโลกรัมละ 2 บาท เพราะพื้นที่ปลูกเกินความต้องการ ล้นตลาด 7 แสนตัน หากพรรคชาติพัฒนาเข้ามาจะทำให้น้ำมันปาล์มที่ล้นตลาด 7 แสนตัน ด้วยการนำไปผลิตไบโอดีเซล บี 20 เพราะเมื่อมีภาคอุตสาหกรรมจะทำให้เกิดการพัฒนา การจ้างงาน ราคาที่ดินราคาขึ้น และ ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
นายสุวัจน์ กล่าวว่าจะเร่งสนับสนุนสินค้าประมงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และการท่องเที่ยวทะเลหาดทรายและชายฝั่ง ถือเป็นจุดแข็งในการท่องเที่ยวจะทำให้ประชาชนทั่วโลกได้รู้จัก เช่นเดียวกับฝั่งอันดามัน โดยจะสนับสนุนให้มีการก่อสร้างมารีน่า ในฝั่งอ่าวไทย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวทางทะเลให้มีเรือยอร์ท หรือ เรือสำราญ ถือเป็นนโยบายสำคัญจะทำให้การท่องเที่ยวเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศ เช่น วัฒนธรรมชุมชน สินค้าโอทอป หรือวิถีชีวิตประมงของคนในท้องถิ่นที่ จ.สงขลา ต้องมีรายได้และชีวิตที่ดีขึ้น
"พรรคชาติพัฒนา จะสนับสนุน มโนราห์ ที่เป็นศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น จะผลักดันขอให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยจะเสนอต่อองค์การยูเนสโก เพราะหากได้รับการยอมรับจะทำให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวและเรียนรู้วัฒนธรรมปักษ์ใต้ ถือเป็นการดึงดูดการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง" นายสุวัจน์ กล่าว