ที่ กองปราบปราม เมื่อวันที่ 12 มี.ค. นายเสกสรรค์ หรือเคน บุษบา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 1 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดปากพนัง ที่ 302/2561 ลงวันที่ 2 พ.ย. 2561 ข้อหา"พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต"เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.พ.ต.ท.ธงชัย อยู่เกษ ผกก. 1 บก.ป. พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ป.เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2561 เวลา 15.00 น.นายเสกสรรค์ ขณะนั้นเป็นอาสาสมัครทหารพรานอยู่ที่ค่ายแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ ได้ลาพักร้อน 10 วันเพื่อมาเยี่ยม นายพงษ์ศักดิ์ ยะกะชัย และนางปริศรา ยะกะชัย ลุงกับป้าที่บ้านเลขที่ 33/1 ม.2 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างนั้นได้เก็บตัวเสพยาบ้าอยู่แต่ในห้องเป็นเวลา 10 วัน 10 คืน จนเกิดอาการหลอน เดินถือปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 ออกมาจากห้อง พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้ไปเจอ นางปริศรา ป้าของตัวเองอยู่หน้าบ้าน จึงใช้ปืนยิงใส่ 1 นัด เมื่อนางปริศรา วิ่งหนีก็ตามไปยิงซ้ำอีกนัดจนนางปริศรา วิ่งหนีไปล้มที่ข้างบ่อน้ำ ระหว่างนั้น นายสมพงษ์ ลุงได้ยินเสียงปืนจึงวิ่งออกมาดูก็ถูกผู้ต้องหายิงไปอีก 2 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ หลังเกิดเหตุ นายเสกสรรค์ ได้ขี่รถ จักรยานยนต์หลบหนีได้ซ่อนตัวอยู่ในสวนยางใกล้ที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ พยายามปิดล้อมจับกุมแต่ไม่พบตัวแต่อย่างใด สอบสวน นายเสกสรรค์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงลุงกับป้าของตัวเองจริงเนื่องจากเสพยาบ้าจนหลอน หลังก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่มาอาศัยวัดแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรปราการ และไปกบดานในจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ หลังหลบหนีการจับกุมมาได้ประมาณ 4 เดือนก็ทราบว่าถูกตำรวจกองปราบปรามตามไล่ล่าก็รู้สึกกดดันและสำนึกผิดเลยตัดสินใจเข้ามอบตัวดังกล่าว นอกจากนี้ นายเสกสรรค์ รับด้วยว่าได้นำอาวุธปืนที่ก่อเหตุไปซ่อนไว้ใต้สะพานข้ามคลองแสนแสบ หน้าโรงเรียนพร้อมมิตรพิทยา ถ.ศรีบูรพา แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจยึดอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 พร้อมกระสุน 9 นัดไว้เป็นของกลาง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เฉลิมพระเกียรติ ดำเนินคดีต่อไป