วันที่ 12 มี.ค.62 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะ รองผู้อำนวยการ ศปอส.ตร., พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรมผบก.สส.สตม.,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3, พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.บก.จร.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์รุ่งกระจ่าง ผกก.สส.บก.น.4 แถลงข่าวจับนายสุเทพ ภู่หอม ซึ่งหลอกลวงผู้เสียหายว่าสามารถพาไปทำงานต่างประเทศได้ โดยต้องมีการเรียน และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ แต่เมื่อถึงวันเดินทาง ไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้เมื่อวันที่ 28กุมภาพันธ์ 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย จำนวน 3 รายว่าได้เคยถูก นายสุเทพ ภู่หอม หลอกลวงว่าสามารถพาไปทำงานต่างประเทศได้ จึงได้ตัดสินใจไปกู้ยืมเงินมาเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนวดแผนไทย และเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ โดยได้ส่งมอบเงินที่กู้ยืมเงินมาให้กับนายสุเทพ เป็นเงินจำนวน 212,000 บาท ต่อมาได้มีการเรียนตามที่ได้สุเทพได้แจ้ง แต่ต่อมาเมื่อถึงกำหนดเดินทางไปต่างประเทศ กลับไม่สามารถติดต่อนายสุเทพได้ จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.มีนบุรี และ พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้ขอศาลจังหวัดมีนบุรี อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 3 หมาย หมายจับที่ 1113/2553 , 1114/2553 และ 1115/2553 ตามล าดับ ในความผิดฐานฉ้อโกง โดยระยะเวลาเกิดเหตุล่วงเลยมาจะครบอายุความ 10 ปีแล้วยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าตามนโยบายรัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำการปราบปรามอาชญากรรมที่ได้เกิดขึ้นหลายรูปแบบ มีการขยายตัวเป็นวงกว้างและมีผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกระท าความผิดที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง เป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลให้ความสำคัญ และเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง ศปอส.ตร. ได้รับข้อมูล และดำเนินการสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ทันภายในก าหนดเวลาก่อนจะหมดอายุความ จนกระทั่งสามารถสืบทราบว่า คนร้ายได้หลบหนีไปอยู่แถวบริเวณซอยมิตรไมตรี แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งวันที่ 7 มีนาคม 2562 พบชายที่มีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับนายสุเทพ ภู่หอม บุคคลตามหมายจับ จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ และแสดงหมายจับ ในชั้นจับกุมนายสุเทพ ภู่หอม ให้การภาคเสธอ้างว่าตนเองทำงานให้กับบริษัท ทัวร์ และได้มีคนเอาบัตรประชาชนของตนเองไปใช้ แต่ อย่างไรกีตามในคดีนี้ มีผู้เสียหาย จำนวน 3 ราย ยืนยันประกอบกับพฤติการณ์ที่เคยไปมาหาสู่กันก่อนที่จะมีกำหนดการเดินทางไปยังประเทศออสเตรเลียตามคำกล่าวอ้างของนายสุเทพ ซึ่งได้รวบรวมเข้าสู่ส านวนการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ศปอส.ตร. ขอประชาสัมพันธ์ ให้พี่น้องประชาชนท่านใด ที่เคยตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกลวงว่าสามารถพาไปทำงานต่างประเทศได้ และอาจเป็นคนร้ายรายเดียวกัน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ สน.มีนบุรี