ต้องถือเป็นรัฐที่สร้างปัญหาความมั่นคงให้แก่ “เมียนมา” เจ้าของฉายาแดน “หม่อง” ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ“ยะไข่” รัฐทางตะวันตกของเมียนมา ซึ่งมีพรมแดนติดกับบังกลาเทศและอินเดีย สองประเทศที่เป็นทั้งคู่รัก คู่แค้น ในประวัติศาสตร์ของเมียนมาแต่ครั้งอดีต โดยที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจวบจนกระทั่งยุคนี้ พวกกลุ่มติดอาวุธโรฮีนจา ก็ต้องนับว่า สร้างปัญหากวนใจในด้านความมั่นคงให้แก่ทางการเมียนมาได้อย่างไม่บันเบาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง กลุ่มก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงที่ใช้ชื่อว่า “กองทัพปลดปล่อยโรฮีนจาแห่งอาระกัน” หรือ “เออาร์เอสเอ” หรือที่มักเรียกแบบย่อๆ อย่างติดปากว่า “อาร์ซา” (ARSA : Arakan Rohingya Salvation Army) ซึ่งเคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่รัฐดังกล่าว ที่มีชาวโรฮีนจาพำนักอาศํยอยู่เป็นจำนวนมาก ยิ่งกว่ารัฐอื่นๆ ก็ต้องถือว่า หนักหนาสาหัสสากรรจ์ เพราะสร้างความสูญเสียให้แก่ทางการเมียนมาไม่น้อยในช่วงที่ผ่านมา ด้วยศักยภาพในปฏิบัติการก่อเหตุของขบวนการก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงกลุ่มนี้ที่มีอยู่อย่างระดับสูง จากการก่อตั้งสถาปนากลุ่มมาเป็นเวลานาน ผ่านการฝึกฝนกับขบวนการก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงที่พวกฝักใฝ่กันในแต่ละช่วงสมัย เช่น ในครั้งที่กลุ่ม “อัลกออิดะฮ์” ภายใต้การนำของ “นายอุสมะฮ์ บิน ลาเดน” มีชื่อดังโด่ง ทางกลุ่มอาร์ซาร์ ก็แสดงสัญญาณว่าฝักใฝ่ พร้อมกับส่งสมุนไปฝึกฝนปฏิบัติการก่อการร้ายในเครือข่ายของอัลกออิดะฮ์ที่อยู่ใกล้เคียง อาทิ ปากีสถาน และอัฟกานิสถาน เป็นต้น เมื่อกลุ่มอัลกออิดะฮ์ โรยราลงไป โดยมีขบวนการก่อการร้าย “รัฐอิสลาม” หรือ “ไอเอส” หรือที่หลายคนเรียกว่า “ไอซิส” ผงาดขึ้นมาแทนที่ ทาง “อาร์ซา” ก่อการร้ายกลุ่มนี้ ก็เข้าไปสวามิภักดิ์ พร้อมส่งคนของตนเข้าไปฝึกฝนกับไอเอส ที่มาตั้งเครือข่ายในประเทศใกล้เคียงทำนองเดียวกันกับเมื่อครั้งสมัยอัลกออิดะฮ์โด่งดัง ก่อนกลับมาซุ่มกบดานบริเวณพรมแดนเมียนมา - บังกลาเทศ อาศัยจังหวะเหมาะๆ สบโอกาส ออกปฏิบัติการประจัญบานกับทางการเมียนมากันอยู่เป็นระยะๆ เพื่อตอบโต้ต่อทางการเมียนมา ที่ดำเนินการกวาดล้างชนกลุ่มน้อยโรฮีนจา คร่าชีวิตชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้ จนต้องอพยพทิ้งที่อยู่จากรัฐยะไข่ ไปยังประเทศต่างๆ เป็นปรากฏการณ์วิกฤติลี้ภัยวิกฤติหนึ่ง ที่หลายฝ่ายต่างพากันพูดถึง การฝึกฝนในการยิงต่อสู้ของกลุ่มกบฏ “กองทัพยะไข่” หรือ “เอเอ” ที่เป็นสตรี ภายในค่ายของพวกเขาแห่งหนึ่งในรัฐยะไข่ ล่าสุด ในรัฐยะไข่ ก็หาได้มีแต่ “อาร์ซา” ก่อการร้ายแต่เพียงกลุ่มเดียว แต่ได้ปรากฏเพิ่มวายร้ายขึ้นมาอีกกลุ่ม นั่นคือ “กองทัพยะไข่” หรือ “อาระกัน อาร์มี” หรือที่ในเมียนมาหลายคนเรียกกันสั้นๆ ว่า “เอเอ” คือ เรียกตามคำย่อชื่อหน้าของกลุ่มคือ “Arakan Army (AA)” กลุ่มกบฏ “กองทัพยะไข่” หรือ “เอเอ” ที่เป็นผู้ชาย ฝึกยุทธวิธีการสู้รบ ที่มาที่ไปของวายร้ายกลุ่มนี้ ก็ต้องถือว่า เป็น “กบฏ” ของเมียนมา ซึ่งมีที่มาจากรัฐ “คะฉิ่น” หรือ “กะชีน” ทางตอนเหนือสุดของเมียนมา เดิมทีก็เคลื่อนไหวอยู่ในรัฐกะชีนมาก่อน หลังจากเริ่มก่อตั้งกลุ่มขึ้นมาเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2552 นับถึงวันนี้ก็เกือบสิบปีเต็มแล้ว โดยพวกเขาฝึกฝนด้านการก่อการร้ายและยุทธวิธีกับ “กองทัพเอกราชกะชีน”อันเป็นกองกำลังฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนในรัฐกะชีน “กองทัพเอกราชกะชีน” หรือ “เคไอเอ” ที่ “กองทัพยะไข่” หรือ “เอเอ” เคยร่วมรบกับกองทัพรัฐบาลเมียนมามาด้วยกัน ทั้งนี้ ทาง “เอเอ” ถูกก่อตั้งขึ้นมา ในลักษณะให้เป็นฝ่าย หรือปีกทางการทหาร ของ “สหสันนิบาตแห่งอาระกัน” หรือที่ในเมียนมาเรียกสั้นๆ ว่า “ยูแอลเอ (ULA : United League of Arakan)” ซึ่งเป็นปีกทางการเมืองของชาวอาระกัน หรือชาวยะไข่ โดยมีนัยทางวัตถุประสงค์ก็เพื่อแยกดินแดน หรือต่อสู้เพื่อเอกราชของรัฐยะไข่จากเมียนมา โดยกลุ่ม “เอเอ” นี้ ได้ก่อเหตุถล่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทางการเมียนมา หลายครั้งหลายหน จนสร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดช่วงที่ผ่านมาในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในห้วง 2 – 3 ปีหลัง ที่ก่อเหตุรุนแรงด้วยสมาชิกกลุ่มของพวกเขาเอง แบบแยกวงออกจากเคไอเออย่างเต็มตัว อาทิ การสู้รบกับกองทัพรัฐบาลเมียนมาที่เมืองเจ๊าต่อ เมื่อเดือน เม.ย. 2558 สร้างความสูญเสียให้แก่กองทัพรัฐบาลเมียนมาไปไม่น้อย การปะทะกับกองทัพรัฐบาลเมียนมา ในพื้นที่รอยต่อระหว่างเมืองเจ๊าต่อกับเมืองมเยาะอู้ หรือมโหย่ฮ่อง เมื่อเดือน ธ.ค. 2518 ซึ่งในการปะทะกันครั้งนี้ กองทัพรัฐบาลเมียนมา ต้องสูญเสียนายทหาระดับ “ผบ.” ด้วย นอกเหนือจากกำลังพลอื่นๆ ที่มีทั้งบาดเจ็บและล้มตาย ล่าสุด ได้เกิดเหตุบุกโจมตีทัพตำรวจเมียนมา ที่หมู่บ้านโยตาโย๊ก ใกล้เมืองซิตตเว รัฐยะไข่ เมื่อช่วงดึกของสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตำรวจต้องเสียชีวิตไป 9 นาย โดยก่อนหน้ากลุ่มคนร้ายจะหลบหนีไป ได้นำอาวุธประจำกายของตำรวจไปด้วย ซึ่งเป็นอีกครั้งหนึ่งแล้วที่กลุ่ม “เอเอ” ถล่มหน่วยตำรวจของเมียนมา โดยเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีปฏิบัติการจนตำรวจเมียนมาถูกปลิดชีพไปจำนวน 13 นาย ในคราวเดียว เหตุปะทะกันครั้งล่าสุดที่หมู่บ้านโยตาโย๊ก ใกล้เมืองซิตตเว รัฐยะไข่ ที่ทำให้ตำรวจเมียนมา เสียชีวิต 9 นาย การปรากฏตัวของกบฏกลุ่มนี้ ก็มีเสียงเพรียกเตือนมาว่า ทางการเมียนมามีปัญหาด้านความมั่นคงเพิ่มขึ้นจากกลุ่มกบฏที่เพิ่มมาอีกหนึ่ง แบบมิอาจมองข้ามละเว้นไว้ไปเสียได้