11 มี.ค.62 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้ากรณีชาย 2 คนร่วมกันใช้อาวุธปืน ยิงขึ้นฟ้าภายในงานมงคลสมรส กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชี่ยล ในเขตพื้นที่ สภ.วังเหนือ ภ.จว.ลำปาง ว่าเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 08.30 น. นายสมาน ดีงาม อายุ 59 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กรณีชายจำนวน 2 คน มาร่วมงานมงคลสมรสของบุตรสาวของตน ที่บ้านเลขที่ 189 หมู่ 3 ต.วังทรายคำ อ.วังเหนือ และหลบหนีไป ทั้งนี้เบื้องต้นพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุพอสังเขป รวมถึงได้รับคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนั้นได้ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ รวมถึงตรวจสอบรวบรวมข้อมูลกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้เบื้องต้นได้ทราบถึงตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองแล้ว ทั้งนี้หลังจากการรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญทั้งหมดในคดี พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งสองในความผิดฐาน “ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ร่วมกันยิงปืน ในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร” คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยได้ทราบถึงตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวน เตรียมยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้เร่งจับกุมที่ก่อเหตุยิงปืนมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะ สร้างความตื่นตระหนกให้แก่พี่น้องประชาชน และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง พร้อมกันนี้ได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ให้กำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก โดยหากเกิดเหตุต้องติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้โดยเร็ว ทั้งนี้พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามขอฝากเตือนเกี่ยวกับเรื่องการยิงปืนขึ้นฟ้า บ่อยครั้งเมื่อมีการจัดงานมหรสพ หรืองานรื่นเริง มักจะควบคุมอารมณ์หรือสติไม่ได้ เกิดความคึกคะนอง ซึ่งที่ผ่านมานั้นอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ของผู้อื่นได้ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย มีอัตราโทษทั้งจำคุก และปรับ โดยหากประชาชนพบเห็นเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว ขอให้แจ้งเหตุไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ สถานีตำรวจในพื้นที่ต่างๆ ได้ที่โทรเบอร์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม.