“CKP” มาแรง หุ้นกู้บริษัทย่อย “ไฟฟ้าน้ำงึม 2” มูลค่า 6,000 ล้านบาทนักลงทุนสถาบันแห่จองเกินกว่า 2 เท่า เผยผลตอบรักจากศักยภาพแกร่งโตต่อเนื่อง-ผู้บริหารเชี่ยวชาญธุรกิจ
นายวรพจน์ อุชุไพบูลย์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ CKP เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินบาท ชนิดไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกัน มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมาปรากฎว่า มีผู้ลงทุนสถาบันให้ความสนใจและแสดงความจำนงในการลงทุนหุ้นกู้เกินกว่ามูลค่าหุ้นกู้ที่บริษัทเสนอขายกว่า 2 เท่า
สำหรับหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้ มี 3 ชุดคือ หุ้นกู้ชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.18%ต่อปีจำนวน 3,200 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.44% ต่อปีจำนวน 800 ล้านบาท และหุ้นกู้ชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นและผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิในการไถ่ถอนก่อนกำหนด (Call Option)อายุ 8 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.88% ต่อปี จำนวน 2,000 ล้านบาท
โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A แนวโน้มคงที่” จากบริษัททริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 8 ก.พ.62 โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันเมื่อวันที่ 5- 6 มี.ค.62 และออกหุ้นกู้ในวันที่ 7 มี.ค.62 โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน),ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
“หุ้นกู้ที่บริษัทเสนอขายได้ในครั้งนี้จะนำเงินที่ได้ไปใช้ชำระคืนเงินกู้โครงการที่เหลืออยู่ทั้งหมดกับสถาบันการเงิน ทำให้สามารถปลดหลักประกันทั้งหมดจากเจ้าหนี้เงินกู้เดิม ซึ่งบริษัทขอขอบพระคุณผู้ลงทุนที่ให้ความสนใจในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน จนทำให้การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ประสบความสำเร็จอีกครั้ง”
นอกจากนี้บริษัทไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)แห่งแรกที่ออกหุ้นกู้สกุลเงินบาทเพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ได้ครบ 100% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อศักยภาพธุรกิจและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัท รวมถึงทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจ
นายวรพจน์ กล่าวอีกว่า จากความแข็งแกร่งของบริษัท ทำให้ทริสเรทติ้ง ได้คงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “A แนวโน้มคงที่” และปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดอื่นๆ ที่มีอยู่เดิมทั้งหมด เป็น “A แนวโน้มคงที่” จากเดิมที่ระดับ “A- แนวโน้มคงที่” ซึ่งเป็นผลจากการชำระคืนเงินกู้โครงการที่มีอยู่กับสถาบันการเงินทั้งหมดอีกด้วย
สำหรับบริษัทไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP จดทะเบียนใน สปป.ลาว ได้รับสัมปทานอายุ 25 ปีในการดำเนินการโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 มีกำลังการผลิต 615 เมกกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมดจำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)โดยเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.56 ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 3,961 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจำนวน 1,462 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 19 และร้อยละ 174 ตามลำดับเมื่อเทียบกับปี 2560 ที่ผ่านมา อีกทั้งบริษัทมีสินทรัพย์รวมจำนวน 27,779 ล้านบาท และหนี้สินรวมจำนวน 16,777 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)แห่งแรกที่ออกหุ้นกู้สกุลเงินบาทเพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ได้ครบ 100% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อศักยภาพธุรกิจและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัท รวมถึงทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจ
นายวรพจน์ กล่าวอีกว่า จากความแข็งแกร่งของบริษัท ทำให้ทริสเรทติ้ง ได้คงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “A แนวโน้มคงที่” และปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดอื่นๆ ที่มีอยู่เดิมทั้งหมด เป็น “A แนวโน้มคงที่” จากเดิมที่ระดับ “A- แนวโน้มคงที่” ซึ่งเป็นผลจากการชำระคืนเงินกู้โครงการที่มีอยู่กับสถาบันการเงินทั้งหมดอีกด้วย
สำหรับบริษัทไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP จดทะเบียนใน สปป.ลาว ได้รับสัมปทานอายุ 25 ปีในการดำเนินการโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 มีกำลังการผลิต 615 เมกกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมดจำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)โดยเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.56 ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 3,961 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจำนวน 1,462 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 19 และร้อยละ 174 ตามลำดับเมื่อเทียบกับปี 2560 ที่ผ่านมา อีกทั้งบริษัทมีสินทรัพย์รวมจำนวน 27,779 ล้านบาท และหนี้สินรวมจำนวน 16,777 ล้านบาท