GSC เตรียมนับถอยหลัง เข้าเทรด mai 13 มี.ค.นี้ ย้ำจุดแข็งธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล – ธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้​พร้อมสยายปีก สู่ผู้นำให้บริการงาน Outsource ที่ครบวงจร ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรุงเทพฯ – บมจ.โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ หรือ GSC เตรียมนับถอยหลัง เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 13 มีนาคมนี้ ด้านผู้บริหาร เดินหน้าตอกย้ำ จุดแข็งพร้อมโชว์ศักยภาพธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล – ธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้ ชี้ แนวโน้มอุตสาหกรรม มี อัตราการขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลเชิงบวกต่อ GSC ในอนาคต ระบุ หลังระดมทุน เตรียมต่อยอดธุรกิจ หวังสยายปีก สู่ผู้นำให้บริการงาน Outsource ที่ครบวงจร ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นายอนุชัย วิทย์นลากรณ์ กรรมการ บริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GSC ผู้นำด้านการดำเนินธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล (Call Center Service) และธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ (Collection Service) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าทำการซื้อขายวันแรก ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 13 มีนาคมนี้ ภายใต้ชื่อย่อ 'GSC' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยบริษัทฯมั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยจะเห็นได้หลังจากที่ปิดการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 36 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ยอดการจองซื้อเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทฯประเมินไว้ เนื่องจากกลุ่มนักลงทุน ให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อหุ้น IPO อย่างคึกคัก ทั้งนี้เป็นผลมาจากความเชื่อมั่น ในปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ในการเป็นหนึ่งด้านผู้นำที่ให้บริการ Outsourcing ประเภทธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล (Call Center) และธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้(Collection) มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ ยาวนานกว่า 14 ปี ขณะเดียวกัน หากพิจารณาจากจุดแข็ง ของ GSC จะเห็นได้ว่า บริษัทฯมีความสามารถในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายภายในบริษัทฯได้อย่างดี อีกทั้งยังมีระบบการจัดการเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และจากแนวโน้มอุตสาหกรรม การให้บริการศูนย์บริการข้อมูล และธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเป็นเครื่องตอกย้ำให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของ GSC ในอนาคต เพราะทั้งนี้ต้องยอมรับว่า การให้บริการด้านศูนย์บริการข้อมูล ถือว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ส่งผลให้เกือบทุกธุรกิจจะต้องมีบริการระบบศูนย์บริการข้อมูล โดยหากย้อนไปในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการในแต่ละธุรกิจมักจะใช้บุคลากรภายในองค์กรของตนเอง จนทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับต้นทุนของบุคลากร รวมถึงต้องมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยี เพื่อรองรับกับการให้บริการ ในแต่ละปีที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจการให้บริการ Outsourcing ที่มีความเชี่ยวชาญและมีเทคโนโลยีที่ดี เข้ามาทำหน้าที่ในการดำเนินการ หรือการให้บริการข้อมูลแทนผู้ประกอบการ จึงมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากการเติบโตดังกล่าว ส่งผลให้ GSC ในฐานะผู้นำที่ให้บริการ Outsourcing ประเภทธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล และธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้ ได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดการให้บริการดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม GSC มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำ การให้บริการงาน Outsource ต่างๆ ที่ครบวงจร ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นภายหลังจากที่บริษัทฯได้เม็ดเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะเร่งนำไปขยายสาขา รวมถึงปรับปรุง พัฒนาอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการดำเนินงาน โดยเฉพาะการขยายสาขาทั้งภายในกรุงเทพ 1 แห่ง และต่างจังหวัด อีก 2 สาขา อาทิ ราชบุรี และสุพรรณบุรี เพื่อเพิ่มกำลังการให้บริการ และเป็นการกระจายความเสี่ยง ทั้งในด้านของการจัดหาพนักงาน และการเป็นศูนย์การให้บริการสำรอง (Back-up Site) ในกรณีที่สาขาอื่นๆ เกิดเหตุที่ไม่สามารถทำงานได้ นอกจากนี้ GSC ยังมีแผนปรับปรุงและพัฒนาอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ อาทิ ระบบปฏิบัติการ Avaya ระบบปฏิบัติการ 3CX ระบบบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการของบริษัทฯให้มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงอยากจะให้ความเชื่อมั่นกับนักลงทุนว่า หลังจากที่ต่อไป GSCจะเร่งยอดการขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นคงและยั่งยืน