“กฤษฏา” ห่วงภัยแล้งหนักสุดในรอบ 32 ปี สั่งปลัดเกษตรฯเรียกประชุมวอร์รูมน้ำ ด่วน เร่งขุดสระน้ำขนาดเล็ก บ่อบาดาล ชี้ชาวนาหลายจังหวัด ยังดื้อไม่หยุดปลูกข้าวนาปรัง รับความเสี่ยงเอง เมื่อวันที่ 6 ก.ค.62 นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกรณีนักวิชาการระบุสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้จะหนักกว่าปี 2558-2559 ที่ใช้น้ำจนหมดเขื่อนภูมิพล และแล้งนานที่สุดในรอบ32ปี ว่าได้สั่งการให้นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯในฐานะประธานคณะทำงานบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง (วอร์รูม) เรียกประชุมด่วนวันที่ 7 มี.ค.62 โดยมีอธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำ เพื่อบูรณาการแก้ปัญหา เร่งหาแนวทางป้องกันบรรเทาภัยแล้ง เช่น ดูพื้นที่มีความพร้อมให้เร่งขุดสระน้ำขนาดเล็ก หากพื้นที่ไหนขุดแล้วไม่มีน้ำใส่บ่อ ก็ประสานกระทรวงทรัพย์ฯ ขุดเจาะบ่อบาดาล ซึ่งอธิบดีกรมชลประทาน ยืนยันว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนทั่วประเทศ มีน้ำให้ประชาชนใช้อุปโภค บริโภค ได้ถึงวันที่ 31 ก.ค.62 ทั้งนี้ ในส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทาน นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงต้องติดตามสถานการณ์น้ำทุกพื้นที่ รายงานถึงตนทุกวันจันทร์ เร่งเตรียมคน เครื่องมือ ทำบัญชีแหล่งน้ำทุกรูปแบบโดยเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรังอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้ความร่วมมือทางราชการขอให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อย และหยุดปลูกข้าว ต้องรับความเสี่ยงเองกรณีเกิดเสียหาย รัฐไม่จ่ายชดเชยในเกณฑ์ผู้ประสบภัย สำหรับปีนี้แผนจัดสรรน้ำ ปลูกข้าวนาปรัง 8.03 ล้านไร่ พืชไร่ พืชผัก 2.43 ล้านไร่ รวมทั้งประเทศ 10.46 ล้านไร่ แม้ว่าภาพรวมปลูกเกินไปเพียง 5 หมื่นไร่ แต่หากดูลงรายพื้นที่หลายจังหวัด ได้ปลูกเกินแผนไปมากกว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่ ดังนั้นเกษตรกรต้องรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น