ตามคาด"โปรเม" เอรียา และ“เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ซิวรางวัลอาชีพยอดเยี่ยมหญิง-ชาย ขณะที่ “พรชัย-พาณิภัค” ผงาดรางวัลสมัครเล่นยอดเยี่ยมแห่งปี งานเชิดชูเกียรติคนกีฬา สยามกีฬาอวอร์ดส์ ครั้งที่ 13 วันนี้ (6 มี.ค.2562) มีการมอบรางวัลของคนกีฬาในงาน “เชิดชูเกียรติคนกีฬา สยามกีฬาอวอร์สด์ ครั้งที่ 13” จัดขึ้นที่โรงละครอักษรา คิงเพาเวอร์ โดยงานครั้งนี้คงได้รับเกียรติจากบุคคลในวงการกีฬาและนักกีฬาเดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่งเช่นเดิม ทั้งนี้งานประกาศรางวัลสยามกีฬา อวอร์สด์ ครั้งที่ 13 ประกอบด้วย รางวัลแห่งเกียรติยศ เอ็มวีพี จำนวน 3 รางวัล ดังนี้ 1.รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมชาย ผู้คว้ารางวัลในปีนี้ไปครอง ได้แก่ พรชัย เค้าแก้ว นักกีฬาเซปักตะกร้อ รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วนผู้เข้ารอบ 2 คน จาย อังค์สุธาสาวิทย์นักกีฬาจักรยานเจ้าของเหรียญทองจักรยานประเภทลู่ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 และ ขุนตาลพวงเพชร นักกีฬาเพาะกาย เจ้าของแชมป์โลก รับเงินรางวัลคนละ 20,000 บาท 2.รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมหญิง ได้แก่ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโด เหรียญทอง กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วน สุริยา จิวเฉลิมมิตร นักกีฬายิงปืนเจ้าของเหรียญทอง อชก. 18 กับ นันท์ภัส ภุชณงค์ นักกีฬาทางอากาศดีกรี 2 ทองเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 รับเงินรางวัลคนละ 20,000 บาท 3.รางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม เนื่องจากในปีนี้มีนักกีฬาที่ทำผลงานโด่ดเด่นทั้งชายและหญิง คณะกรรมการจึงพิจารณาให้แยกรางวัลเป็นรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมชาย กับ รางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมหญิง โดยนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมหญิง ในปีนี้ ได้แก่ โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล นักกีฬากอล์ฟ รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วนรัชนก อินทนนท์ นักกีฬาแบดมินตัน และ ลักษิกา คำขำ นักกีฬาเทนนิส รับเงินรางวัลคนละ 20,000 บาท ขณะเดียวกันนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมชาย ได้แก่ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วน "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักกีฬาฟุตบอล และ กิรเดช อภิบาลรัตน์ นักกีฬากอล์ฟ รับเงินรางวัลคนละ 20,000 บาท ส่วนรางวัลยอดเยี่ยม 6 รางวัล ประกอบด้วย นักกีฬาดาวรุ่งยอดเยี่ยม ได้แก่ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตัน รับเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วน อธิชัย เพิ่มทรัพย์ นักกีฬามวยสากล กับ "น้องมิ้ว" ด.ญ.วรรญา วรรณผ่อง นักกีฬาบังคับโดรน เจ้าของแชมป์โลก รับเงินรางวัลคนละ 20,000 บาท สำหรับรางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ประกอบด้วย เซ ยอง ซอก ผู้ฝึกสอนเทควันโด รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วน หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ผู้ฝึกสอนฟุตบอลหญิง, โชคชัย พิสิฐวุฒินันท์ ผู้ฝึกสอนศรีษะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น รับเงินรางวัลคนละ 20,000 บาท สมาคมกีฬายอดเยี่ยม ในปีนี้ได้แก่ สมาคมกีฬาบิลเลียด รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 50,000 บาท รางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพยอดเยี่ยม ได้แก่ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วนรองฯ ก้าวหน้า พี เค แสนชัยมวยไทยยิม และ รุ่งกิจ หมอเบสกมลา รับเงินรางวัลคนละ 20,000 บาท รางวัลนักกีฬาคนพิการยอดเยี่ยม ได้แก่ พงศกร แปยอ นักกีฬาวีลแชร์แรซซิ่ง รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วนรองฯ สุจิรัตน์ ปุกคำ แบดมินตัน และ อังคาร ชนะบุญ กรีฑาประเภทกระโดดสูงรับเงินรางวัลคนละ 20,000 บาท รางวัลเกียรติยศเพื่อเชิดชูให้กับอดีตนักกีฬาทีมชาติไทยที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยคือ เค แบ็งค์ ฮอล ออฟ เฟรม รางวัลหอเกียรติยศคนกีฬาซึ่งปีนี้มี 8 ท่านดังนี้ สามารถ ศรแดง " เชน" มวยไทย, พันธ์ทิพย์ แก้วสุริยะ (มวยสากล), วิชัย แสงธรรมกิจจกุล ฟุตบอล, ชัชชัย พหลแพทย์ (ฟุตบอล), สุรัตน์ ณ เชียงใหม่ (เซปักตะกร้อ), สะอาด ปัญญาวัน (วินเซิร์ฟ), พล.ต.ต.จักร จักษุรักษ์ (รักบี้ฟุตบอล), จิระ ประพันธะโยธิน (ยิงปืน) รับถาดรางวัลที่สลักผลงานเด่นในอดีต พร้อมเงินรางวัลคนละ 50,000 บาท ด้านรางวัลเมอร์ริท อวอร์ดหรือบุคคลทรงคุณค่า ที่ปีนี้มอบให้แก่ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสเลสเตอร์ และผู้ก่อตั้งสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย เพื่อให้คนไทยร่วมรำลึกถึงคุณงามความของ "เสี่ยวิชัย" ที่ทีให้แก่วงการกีฬาไทยรวมถึงการสนับสนุนสร้างโอกาวแก่เยาวชนที่รักและชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลได้ก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ