นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า สำหรับมาตรการทางศุลกากรเพื่อยกอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารโลก ด้านการค้าระหว่างประเทศ (Doing Business : Trading Across Border) ในช่วงปี พ.ศ. 2561 – 2562 ประกอบด้วย 3 มาตรการ ดังนี้ มาตรการแรก กระบวนการทางศุลกากรล่วงหน้าก่อนสินค้ามาถึงสำหรับของนำเข้า (Pre - Arrival Processing : PAP) เป็นหนึ่งในมาตรการทางศุลกากรที่สำคัญ ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ภายใต้ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกการค้า (Trade facilitation Agreement:TFA) ทั้งนี้สำหรับประเทศไทย นอกจากการส่งบัญชีสินค้า (Manifest) ล่วงหน้าแล้ว ผู้ประกอบการนำของเข้าสามารถยื่นใบขนสินค้าและชำระภาษีอากรล่วงหน้า พร้อมติดต่อเพื่อรับสินค้าทันทีเมื่อเรือ/อากาศยานมาถึง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบเวลาระหว่างการขนส่งแบบปกติกับกระบวนการทางศุลกากรล่วงหน้าก่อนสินค้ามาถึงสำหรับของนำเข้า (Pre - Arrival Processing) พบว่า ระยะเวลาเฉลี่ยตั้งแต่สินค้ามาถึง จนกระทั่งถึงกระบวนการรับของออกจากอารักขาศุลกากร ใช้เวลาลดลงดังนี้ การนำเข้า การเปิดตรวจ ระยะเวลาเฉลี่ยตั้งแต่ของมาถึง–รับของออกจากอารักขา แบบปกติ Pre – Arrival Processing เทียบ (ลดลง) ทางอากาศ Green Line 17 ชม. 2 นาที 1 ชม. 55 นาที 15 ชม. 7 นาที Red Line 22 ชม. 40 นาที 4 ชม. 55 นาที 17 ชม. 45 นาที ทางเรือ Green Line 1 วัน 21 ชม. 39 นาที 1 วัน 12 ชม. 53 นาที 8 ชม. 46 นาที Red Line 1 วัน 11 ชม. 57 นาที 1 วัน 6 ชม. 47 นาที 5 ชม. 10 นาที ทั้งนี้กรมศุลกากรได้เปิดใช้ระบบให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา และมีการส่ง Manifest ล่วงหน้าทางเรือและทางอากาศยาน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 99 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561) มาตรการที่สอง การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Payment) กรมศุลกากรได้เปิดให้บริการระบบ e-Bill Payment ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการสามารถชำระเงินเกี่ยวกับการดำเนินพิธีการทางศุลกากรผ่านช่องทาง Internet Banking, Mobile Banking, ATM, Counter Bank และตัวแทนชำระเงิน ได้ทุกพื้นที่ ทำให้ระยะเวลาติดต่อกับกรมศุลกากร ลดลง 3 ชั่วโมงต่อครั้ง และลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการได้ครั้งละ 433.74 บาท มาตรการที่สาม การไม่เรียก/ไม่รับสำเนาใบขนสินค้าที่มีในระบบ e-Customs (No Customs Declaration Copy) โดยสำนักงานศุลกากร ด่านศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย และท่าเรือแหลมฉบัง ไม่เรียก/ไม่รับสำเนาใบขนสินค้าในขั้นตอนการตรวจปล่อย ทำให้สามารถลดสำเนาใบขนสินค้าที่ผู้มาติดต่อ/ผู้ประกอบการต้อง พิมพ์ ปีละประมาณ 60 ล้านแผ่น และลดค่าใช้จ่ายกระดาษได้ไม่น้อยกว่าปีละประมาณ 30 ล้านบาท กรมศุลกากรมุ่งเน้นที่จะพัฒนามาตรการทางศุลกากรเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้ประกอบการ เพื่อลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการนำเข้า ส่งออกสินค้า และยกระดับความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.customs.go.th ในหัวข้อ Doing Business : Trading Across Border