วันอาทิตย์ที่ 3 มี.ค.62 ที่ห้องประชุม ศปก.ตม.2 ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม./รอง ผอ.ศปอส.ตร. ,พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. ,นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ,พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1 ,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.บก.ตม.3 , พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 , พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.1 , พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.3 บก.ทท.1 ,พ.ต.อ.ภาสกร ณ พิกุล ผกก.สภ.เวียงแก่น ภ.จว.เชียงราย แถลงข่าว จับกุม บุคคลที่ใช้ชื่อ นายธวัชชัย เลายี่ปา หรือ นายจางชิงโป (Mr.Zhang Qing Po) สัญชาติจีน สวมบัตรประชาชนไทย แอบอ้างเป็นนักธุรกิจไทย เปิดบริษัทชักชวนชาวจีนมาร่วมลงทุนซื้อขายอสังหา ริมทรัพย์ในประเทศไทย พบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ดำเนินการเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะอาชญากรรมที่ชาวต่างชาติได้เข้ามากระทำความผิด ในประเทศไทย และมีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ประกอบกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ทท.1 สืบทราบว่า มีบุคคลที่ใช้ชื่อว่า นายธวัชชัย เลายี่ปา สร้างภาพลักษณ์ว่าตนเป็นคนไทยที่ประสบความสำเร็จ ในการประกอบธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย อีกทั้งมีพฤติกรรมชักชวนชาวจีนให้เข้ามาร่วมลงทุน และเป็นเจ้าของบริษัทประกอบธุรกิจนำเที่ยว นายธวัชชัยฯ ได้เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข่าวสารของตนเองลงในเว็บไซด์ของจีนในชื่อ นายจาง ซี หนี (Mr.Zhang Xi Ni) จึงสืบสวนจนพบว่า นายธวัชชัยฯ เป็นบุคคล สัญชาติและเชื้อชาติจีน ชื่อจริง นายจาง ชิง โป๋ (Mr.Zhang Qing Po) เดินทางเข้ามาในประเทศ เมื่อประมาณ พ.ศ.2552 ได้ทำการทุจริตสวมบัตรประชาชนของนายธวัชชัย เลายี่ปา เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2558 ณ ที่ว่าการอำเภอเวียงแก่น จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดเทิง เพื่อออกหมายจับบุคคลที่ใช้ชื่อ นายธวัชชัย เล่ายี่ปา หมายเลขบัตรประชาชน 2-5807-00001-96-6 ในความผิดฐาน “ทำหรือใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือกระทำการเพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นมีชื่อหรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้าน หรือเอกสารทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ, ยื่นคำขอมีบัตรโดยไม่มีสัญชาติไทย ด้วยการแจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตร, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำผิดตาม มาตรา265 มาตรา266หรือมาตรา267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”ตามหมายจับศาลจังหวัดเทิงที่ จ.7/2562 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 และต่อมาวันที่ 2 มีนาคม 2562 ชุดจับกุม และฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันจับกุมตัวบุคคลที่ใช้ชื่อว่า นายธวัชชัย เล่ายี่ปา หรือ นายจาง ชิง โป๋ (Mr.ZHANG QING PO) ผู้ต้องหา ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะที่กำลังเดินทางเข้ามาในประเทศไทย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนนายจาง ชิง โป๋ เบื้องต้น ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นชาวเหอหนาน ประเทศจีน ได้สวมบัตรประชาชน ของนายธวัชชัย เลายี่ป่า จริง ภายหลังจากที่ได้บัตรประชาชนไทยแล้ว นำบัตรประชาชนไทยที่ได้ ไปทำการจดทะเบียนบริษัทหลายบริษัท และทำธุรกรรม ต่างๆ ในชื่อของนายธวัชชัย เลายี่ปา มาโดยตลอด ประกอบกับการสืบสวนขยายผลเข้าตรวจค้นที่พัก และที่ตั้งบริษัท พบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมชักชวนชาวจีน เข้ามาร่วมลงทุน ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดมิเนียม ที่ดินในพื้นที่เขตอุตสาหกรรม และที่ดินในแหล่งท่องเที่ยว โดยมีเงินหมุนเวียน หลายสิบล้านบาท อีกทั้งยังดำเนินการในรูปแบบสมาคมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ไทย-จีน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ ซึ่งพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ นับว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างยิ่ง มีการใช้บัตรประชาชนที่ได้จากการสวมบัตรประชาชนไทย จดทะเบียนบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ขอทำใบอนุญาตขับขี่ หนังสือเดินทาง ฯลฯ เป็นการไม่เคารพกฎหมายไทย ซึ่งชุดสืบสวนจะได้ทำการสืบสวนขยายผล หาผู้ที่เกี่ยวข้องและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป