ในเวทีเสวนาจิบน้ำชา หัวข้อ เปิดวิสัยทัศน์ “Digital Economy” ชูแนวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกยุคใหม่จัดโดย ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITPC)สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยมีตัวแทนจากพรรคการเมืองไทย ร่วมเสนอวิสัยทัศน์ และนโยบาย ในการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนประเทศ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งสิ่งสำคัญ คือทำอย่างไรให้คนมีความสมาร์ท. (Smart People) สามารถรู้เท่าทันเทคโนโลยี และสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการทำงาน ธุรกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิต ส่วนนโยบายของพรรคทั้งหมดต้องใช้ไอซีที เป็นตัวขับเคลื่อน ทั้งนโยบายเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้อง และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ทั้งบริการสาธารณสุข และบริการภาครัฐ นายจุติ ไกรฤกษ์ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์. กล่าวว่า นโยบายฯคือ “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” ซึ่งหากเข้ามาเป็นรัฐบาลสิ่งแรกที่เร่งดำเนินการด้านดิจิทัล คือสานต่อโครงการศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชน โดยเร่งขยายเพิ่มเป็น10,000แห่ง จากเดิมสร้างไว้ 4,000 แห่ง พร้อมทั้งเปิดให้มีการจ้างงาน 10,000 ตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่ให้ความรู้ไอซีที และอีคอมเมิร์ซชาวบ้าน สร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในชุมชน นอกจากนี้สิ่งที่ต้องดำเนินการคือการยกระดับกระทรวงดิจิทัลฯให้มีความเข้มแข็ง แก้กฎหมายจัดสรรคลื่นความถี่ ให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากทรัพยากรรัฐ และส่งเสริมไปรษณีย์ไทยให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ นายไกลก้อง ไวทยากร พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคฯมองว่าปัญหาด้านอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทยคือ การบังคับใช้กฎหมายเป็นอุปสรรคต่อการเข้ามาลงทุนการขาดแคลนบุคลากรด้านดิจิทัล ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมามีแต่การเร่งโปรโมตสตาร์ทอัพ แต่ไม่มีคนพัฒนา เกิดปัญหาการแย่งคน ซึ่งนโยบายพรรคคือการเร่งผลักดันสตาร์ทอัพไทยไปถึงระดับยูนิคอร์น ขณะเดียวกันต้องเตรียมพร้อมรับมือการเข้ามาของ AI และหุ่นยนต์ โดยขณะนี้หลายธุรกิจเริ่มได้รับผลกระทบ การขยายเครือข่ายสายไฟเบอร์ เร่งการพัฒนา 5G ขยายฟรีไวไฟโดยให้เอกชน เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เปิดแชร์ไวไฟฟรี เปิดโอเพ่นดาต้าภาครัฐ เปิดข้อมูลสร้างดาต้าอีโคโนมี่ นำข้อมูลมาขยายมูลค่าทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการศึกษาทดแทนการขาดแคลนเทคโนโลยี นายฤภพ ชินวัตร พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า ปัญหาของอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ได้แก่ ช่องว่างการเข้าถึงเทคโนโลยีที่คนรากหญ้ายังมีช่องว่างในการเข้าถึง กฎหมายหรือระเบียบทางด้านดิจิทัลไปมุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงมากกว่าการส่งเสริม คนไทยมีความสามารถแต่ขาดการส่งเสริม ถ้ามีทรัพยากรที่ทุกคนสามารถใช้งานร่วมกันได้น่าจะช่วยในการพัฒนาได้ดีขึ้น สิ่งที่พรรคอยากทำถ้าเป็นรัฐบาล คือเอาเทคโนโลยีมาทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ทำให้มีสมาร์ทซิติเซนต์ คนสามารถใช้แอพพลิเคชั่นช่วยให้คนรับบริการภาครัฐได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้น ส่งเสริมให้รักเรียนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และเรียนได้จากทุกทีโดยเชิญครูที่มีความรู้ที่เกษียณอายุไปแล้วมาสอน ทำแอพพลิเคชัน และบริการที่ยกระดับเมืองให้เป็นสมาร์ทซิตี้จริงๆ นายณัฐพงษ์ รอบคอบ พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า ปัญหาของอุตสาหกรรมดิจิทัลน่าจะได้แก่ปัญหาความไม่เข้าใจ ความไม่เป็นเอกภาพในการใช้งานเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ความไม่เข้าใจของผู้บริหารที่กำหนดนโยบายไอทีที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเช่น ความพยายามจัดเก็บรายได้จากการทำอีคอมเมิร์ซ อาจทำให้การทำธุรกิจไม่ราบรื่น ขณะที่นโยบายไอทีของพรรคคือการปลดผู้บริหารสูงสุดทางด้านไอทีที่ไม่มีคุณภาพ บูรณาการระบบการทำธุรกรรมให้มีเอกภาพ ยุบแอพพลิเคชันภาครัฐทั้งหมดให้เป็นแอพพลิเคชันเดียว หรือ ไทยแลนด์แอพพลิเคชัน ส่งเสริมสตาร์ทอัพให้ไปถึงระดับโลก ใช้งานศูนย์ไอซีทีชุมชนให้เป็นศูนย์โอท็อปและฝึกอาชีพ และบูรณาการ