นางเหวียน ถิ เฟือง เถา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเวียตเจ็ท กล่าวว่า เวียตเจ็ทลงนามสัญญาจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้งลำใหม่ 100 ลำ รวมมูลค่าประมาณ 400 พันล้านบาท หรือ 12.7 พันล้านดอลลาร์ และสัญญาการสนับสนุนด้านเครื่องยนต์กับบริษัทเจเนอรัลอิเล็กทริกรวมมูลค่า 18 พันล้านดอลลาร์ โดยพิธีจัดขึ้นในการประชุมสุดยอดผู้นำ United States – North Korea Summit ครั้งที่ 2 ซึ่งสัญญาจัดซื้อเครื่องบินลำใหม่จำนวน 100 ลำ และสัญญาจัดซื้อเครื่องบินรุ่น B737 MAX ฉบับอื่น ๆ รวมจำนวน 200 ลำ ถือเป็นก้าวสำคัญของเราในการดำเนินงานตามแผนขยายเครือข่ายการบินระดับสากลด้วยขีดความสามารถด้านบริการที่สูงขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางอันน่าตื่นใจแก่นักเดินทางและบริการเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางในประเทศต่าง ๆ ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น สำหรับบริษัท ไทย เวียตเจ็ท แอร์ จอยท์ สต๊อค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเวียตเจ็ทที่มีฐานดำเนินงานในประเทศไทย เป็นผู้บริหารเครือข่ายการบินที่มีการเติบโตอย่าง รวดเร็วทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม เริ่มดำเนินธุรกิจในปี ค.ศ. 2015 ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 600 คน ให้บริการเที่ยวบินในประเทศไทย 5 เส้นทาง และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 12 เส้นทาง เชื่อมประเทศไทยสู่เวียดนามและไต้หวันด้วยเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A320 และ A321 อีกทั้ง สายการบิน ยังมีแผนเพิ่มจำนวนเครื่องบิน 8-10 ลำในแต่ละปี เพื่อการขยายเครือข่ายการบินสู่จุดหมายต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงเกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง และประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากการจัดซื้อเครื่องบิน บริษัทโบอิ้งจะร่วมมือกับเวียตเจ็ทในการยกระดับมาตรฐานด้านเทคนิคและวิศวกรรม การฝึกอบรมนักบิน และการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการของสายการบินในเวียดนาม นอกจากนี้ เวียทเจ็ตและบริษัทเจเนอรัลอิเล็กทริกยังได้ทำสัญญาการสนับสนุนด้านเครื่องยนต์ระยะยาวซึ่งมีมูลค่าถึง 5.3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อการติดตั้งเครื่องยนต์ LEAP-1B ในเครื่องบินของสายการบิน สัญญายังครอบคลุมถึงชิ้นส่วนอะไหล่และแพ็คเกจสนับสนุน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของเครื่องบินที่สั่งซื้อไปแล้วและเครื่องบินรุ่นใหม่ และเมื่อพิจารณาสัญญาทุกฉบับที่สายการบินเวียตเจ็ททำพิธีลงนามกับบริษัทสัญชาติอเมริกันในเวลานี้ จึงมีมูลค่ารวมสูงถึง 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ