จากกรณีพบศพนางอิษฎา อุส่าห์เพียร อายุ 35 ปี ถูกฆ่าและนำศพอำพรางในกองทราย ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 86 เมื่อ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาคือนายนพ โสภณวสุ สามีได้หายตัวไป ซึ่งทางตำรวจได้เตรียมออกหมายจับ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 ก.พ.62 พ.ต.อ. มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รองผบก.น.8 เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวนายนพ โสภณวสุ สามีของนางอิษฎา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัย ที่คาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุลงมือฆ่าฝังดิน ผู้เป็นภรรยาที่บ้านพัก ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการประสานญาติของนายนพ เพื่อเกลี้ยกล่อมให้พาเข้ามอบตัว โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาทางญาติของนายนพ ประสานมายังฝ่ายสืบสวน เพื่อนำเข้ามอบตัว หลังหลบหนีไปอยู่บ้านบิดาที่จ.ชลบุรี
พ.ต.อ.มานพ เปิดเผยอีกว่า ภายหลังนายนพ ได้เข้ามอบตัว พนักงานสอบสวนได้ทำการควบคุมตัวพร้อมทำการสอบปากคำทันที เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพสาเหตุที่ทำไปเกิดจากการหึงหวง ขณะเดียวกันทางญาติได้ยื่นประวัติการรักษาตัวของนายนพ ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเกี่ยวกับการรักษาทางจิตมอบให้พนักงานสอบสวนในการพิจารณา ซึ่งระหว่างการสอบปากคำ ผู้ต้องหาอยู่ในอาการเครียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจจะได้ทำการขออนุมัติหมายขังต่อศาลอาญาธนบุรีต่อไป
"หลังจากนี้ตำรวจจะสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม พร้อมตรวจดีเอ็นเอ. ค้นหาจอบเสียมที่ใช้ขุด ส่วนประเด็นเรื่องผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 1 คนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ต้องเรียกแม่ผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมจึงจะสรุปสำนวนได้" พ.ต.อ.มานพ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย รองผบก.น. 8 เปิดเผยว่า หลังนายนพ โสภณวสุ สามีของนางอิษฎา ที่ถูกสังหารทำการอำพรางศพภายในบ้านพัก เดินทางเข้ามอบตัวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำก็ได้แจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ 1.ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ข้อหาปิดบังอำพรางศพ 3.พ.ร.บ.อาวุธปืน และ4.ข้อหากระทำความรุนแรงในครอบครัว ภายหลังทำการสอบปากคำเสร็จสิ้นพนักงานสอบสวนจะนำตัวไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญาธนบุรีเพื่อออกหมายขัง ระหว่างการสอบสวน เป็นเวลา 12 วันโดยผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่จะยื่นขอประกันตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทั้งนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดสาเหตุการก่อเหตุได้ เพราะอยู่ในสำนวนและเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในประเด็นศาสนา เนื่องจากทั้งคู่นับถือศาสนาอิสลาม
จากการสอบสวนนายนพ ทราบว่า หลังจากที่ก่อเหตุยิงภรรยาแล้วได้พาลูกทั้ง 4 คนไปฝากไว้กับพ่อที่บ้าน ในจังหวัดชลบุรี จากนั้นได้กลับมาจัดการศพภรรยา โดยผู้เป็นแม่ได้กลับมาด้วย ซึ่งพ่อที่เป็นทนายความส่วนตัวของนายนพ ระบุว่าลูกชายมีอาการของโรคซึมเศร้า และได้นำยารักษาโรคซึมเศร้าที่ลูกชายกินเป็นประจำมาแสดงกับตำรวจในชั้นสอบสวนด้วย
พ.ต.อ.มานพ เปิดเผยอีกว่า ภายหลังนายนพ ได้เข้ามอบตัว พนักงานสอบสวนได้ทำการควบคุมตัวพร้อมทำการสอบปากคำทันที เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพสาเหตุที่ทำไปเกิดจากการหึงหวง ขณะเดียวกันทางญาติได้ยื่นประวัติการรักษาตัวของนายนพ ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเกี่ยวกับการรักษาทางจิตมอบให้พนักงานสอบสวนในการพิจารณา ซึ่งระหว่างการสอบปากคำ ผู้ต้องหาอยู่ในอาการเครียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจจะได้ทำการขออนุมัติหมายขังต่อศาลอาญาธนบุรีต่อไป
"หลังจากนี้ตำรวจจะสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม พร้อมตรวจดีเอ็นเอ. ค้นหาจอบเสียมที่ใช้ขุด ส่วนประเด็นเรื่องผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 1 คนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ต้องเรียกแม่ผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมจึงจะสรุปสำนวนได้" พ.ต.อ.มานพ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย รองผบก.น. 8 เปิดเผยว่า หลังนายนพ โสภณวสุ สามีของนางอิษฎา ที่ถูกสังหารทำการอำพรางศพภายในบ้านพัก เดินทางเข้ามอบตัวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำก็ได้แจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ 1.ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ข้อหาปิดบังอำพรางศพ 3.พ.ร.บ.อาวุธปืน และ4.ข้อหากระทำความรุนแรงในครอบครัว ภายหลังทำการสอบปากคำเสร็จสิ้นพนักงานสอบสวนจะนำตัวไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญาธนบุรีเพื่อออกหมายขัง ระหว่างการสอบสวน เป็นเวลา 12 วันโดยผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่จะยื่นขอประกันตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทั้งนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดสาเหตุการก่อเหตุได้ เพราะอยู่ในสำนวนและเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในประเด็นศาสนา เนื่องจากทั้งคู่นับถือศาสนาอิสลาม
จากการสอบสวนนายนพ ทราบว่า หลังจากที่ก่อเหตุยิงภรรยาแล้วได้พาลูกทั้ง 4 คนไปฝากไว้กับพ่อที่บ้าน ในจังหวัดชลบุรี จากนั้นได้กลับมาจัดการศพภรรยา โดยผู้เป็นแม่ได้กลับมาด้วย ซึ่งพ่อที่เป็นทนายความส่วนตัวของนายนพ ระบุว่าลูกชายมีอาการของโรคซึมเศร้า และได้นำยารักษาโรคซึมเศร้าที่ลูกชายกินเป็นประจำมาแสดงกับตำรวจในชั้นสอบสวนด้วย