มกอช. สร้าง Q อาสา เสริมการรับรองการผลิตอาหารปลอดภัยในระบบแปลงใหญ่ เมื่อวันที่ 28 ก.พ.62 นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังลงตรวจสอบพื้นที่แปลงใหญ่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในส่งเสริมการผลิตพืชอาหารปลอดภัยให้แก่ผู้นำกลุ่มเกษตรกรว่า จากที่สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ หรือ มกอช. ได้สร้างQ อาสาขึ้นมาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่าง มกอช.กับเกษตรกร ให้คำปรึกษาเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนเข้าสู่ระบบมาตรฐาน ผลิตพืชอาหารปลอดภัยให้แก่ผู้นำกลุ่มเกษตรกร ตัวแทนสภาเกษตรกร ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) โดยทำหน้าที่ให้คำแนะนำ และเป็นพี่เลี้ยงให้เกษตรกรที่จะเข้าสู่ระบบการผลิต การจัดการแปลงพืชผักให้เป็นไปตามมาตรฐานผ่านการรับรอง ซึ่งที่ผ่านมาทาง มกอช. ได้ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัด 9จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร สระแก้ว พัทลุงกำแพงเพชร ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และนครนายก นำ Q อาสา ไปตรวจประเมินแปลงเบื้องต้นให้กับเกษตรกรในพื้นที่โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ หรือพื้นที่ทั่วไป ที่ยื่นขอการรับรอง GAP และให้คำแนะนำแก่เกษตรกรว่า จะต้องปรับเปลี่ยนการปฏิบัติในเรื่องอะไร/อย่างไร ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดหลัก 100% และข้อกำหนดรองไม่น้อยกว่า 60% เพื่อให้เกษตรกรมีความพร้อมในการตรวจรับรองจากกรมวิชาการเกษตร ซึ่งในปี 2561 ที่ผ่านมา Q อาสาได้ปฏิบัติงานร่วมตรวจประเมินแปลงและให้คำแนะนำ จำนวน 619 แปลง จนสามารถผ่านการรับรอง ร้อยละ 74.96 โดยในส่วนพื้นที่แปลงใหญ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ คือพื้นที่ตำบล ปากช่อง และ ตำบล ลานบ่า อำเภอ หล่มสัก ซึ่งได้พาสื่อมวลชน ลงพื้นที่ในครั้งนี้ ถือเป็นแหล่งผลิตพืชที่สำคัญของเมืองไทย มีทั้งพืชผัก ไม้ผล พืชไร่ ซึ่งเกษตรกรในระบบแปลงใหญ่ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำการเกษตรใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการผลิตพืชอาหารปลอดภัยมากขึ้น ทั้งปลอดภัยต่อผู้บริโภค และ ปลอดภัยต่อตนเอง ซึ่งการให้คำแนะนำของ Q อาสา ต่อเกษตรกรเพื่อปรับเปลี่ยนการปฏิบัติให้สอดคล้องตามเกณฑ์การรับรองมาตรฐาน GAP พืชอาหาร จึงเป็นหนึ่งกลไกสำคัญในการผลักดันให้แปลงเกษตรกรผ่านการรับรอง GAP รวดเร็วขึ้น โดยในตำบล ปากช่อง ซึ่งเป็นแปลงใหญ่พืชผักนั้น ในปี 2561 Q อาสาได้เข้าตรวจประเมินแปลงเบื้องต้น ของเกษตรกร จำนวน 50 ราย ปี2562 จำนวน 20 ราย ส่วนในตำบล ลานบ่า ซึ่งเป็นแปลงใหญ่ส้มโอ Q อาสาได้เข้าตรวจประเมินแปลงเบื้องต้น ในปี 2562 จำนวน 30 รายและ การลงพื้นที่ปฏิบัติงานของคิวอาสาในครั้งนี้พบปัญหาในสองประเด็น คือ เกษตรกรลืมจดบันทึก ถึงขั้นตอนการผลิตพืช และ การเอาใจใส่ในการเก็บวัตถุอันตราย หลังจากใช้แล้วซึ่งเกษตรกรทุกรายพร้อมจะปรับเปลี่ยนให้ตรงกับข้อกำหนดการรับรองมาตรฐาน GAP พืชอาหาร สำหรับ Q อาสาที่เป็นตัวแทนแต่ละพื้นที่นั้นได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ทั้งจากการฝึกอบรมและ การปฏิบัติงานจริงมาใช้ในการตรวจประเมินแปลงเบื้องต้น (Pre audit) พร้อมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้แก่เกษตรกรเพื่อเตรียมความพร้อมในการตรวจประเมินแปลง GAP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้กรมวิชาการเกษตรสามารถตรวจประเมินเพื่อให้การรับรองได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกัน ทาง มกอช. ยังได้พัฒนาเครือข่าย Q อาสา ให้เป็นเครือข่าย ที่ช่วยขับเคลื่อนการผลิตพืชอาหารได้อย่างเป็นรูปธรรม และถือเป็น ความสำเร็จ Q อาสา ของ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ อีกด้านหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยในการผลิตสินค้าเกษตร