“EVER” โชว์ผลงานปี 61 กวาดรายได้กว่า 1.1 พันล้านบาท เติบโตเท่าตัวจากปีก่อน และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อานิสงส์ลูกค้าแห่โอนโครงการแบรนด์โพลิแทน “สวิจักร์”มั่นใจปี 62 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง พร้อมลุยตลาดแนวราบ ผุดทาวน์โฮม 3 โครงการมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัทเอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (EVER) ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์“เดอะโพลิแทน” ทำเลย่านสนามบินน้ำ,โครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว แบรนด์“มายโฮม อเวนิว” และทาวน์โฮม แบรนด์“เอเวอร์ ซิตี้” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในงวดปี 61 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.61 มีรายได้รวม 1,149 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 422 ล้านบาท หรือ 58 % เทียบปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 725 ล้านบาท สำหรับสาเหตุการเติบโตของรายได้ในปี 2561 เนื่องจากมีการโอนเป็นนัยสำคัญ จากคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะโพลิแทน” ทำเลย่านสนามบินน้ำ โดยเฉพาะเดอะโพลิแทนบรีซ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาทที่มีการทยอยขายและโอนตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีก่อนและต่อเนื่อง ส่วนที่เหลือ เดอะโพลิแทน รีฟ และ เดอะโพลิแทน อควาจะโอนในปีถัดไป รวมทั้งยังมีการโอนโครงการแนวราบเดิม และ"มายโฮม อเวนิว"เข้ามาบางส่วนด้วย ซึ่งเป็นโครงการแนวราบที่เปิดใหม่ในช่วงเดือนเม.ย.61 รายได้ในปี 61 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าในปีนี้ ยอดขายจะเติบโตต่อเนื่อง และสร้างสถิติสูงสุดใหม่ จากยอดขายรอโอนที่ปัจจุบันมีกว่า 7,000 ล้านบาท ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 62 กลุ่มบริษัทเน้นการขยายโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น เพื่อบาลานซ์ และการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยจะเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ในโครงการทาวน์โฮมแบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้”ย่านทำเลสุขสวัสดิ์,หนามแดง และด่วนรามอินทรา จตุโชติ ทั้งนี้ได้มีการซื้อที่ดินและเริ่มพัฒนาไว้บางส่วนแล้ว คาดว่าจะเห็นการเปิดขายโครงการทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้”ย่านทำเลสุขสวัสดิ์ เป็นโครงการแรกในช่วงต้นเดือนมี.ค.นี้ ขณะที่รายได้ปี 62 จะเห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยสำคัญ จากยอดโอนที่ทยอยเข้ามาเพิ่ม ทั้งนี้บริษัทได้มีการเตรียมงบลงทุนสำหรับการซื้อที่ดินเพื่อเปิดโครงการใหม่ไว้ที่ 1,000-1,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายโครงการเพิ่ม ทั้งแนวสูงและแนวราบ เพื่อผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีสำหรับนักลงทุน ขณะที่ในส่วนธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งบริษัทเข้าลงทุนผ่าน บริษัทมาย ฮอสพิทอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เชื่อว่าจะมีการเติบโตควบคู่กันไป ปีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มศักยภาพ และการวางแผนปรับปรุงระบบภายในให้มีประสิทธิภาพ การเพิ่มบริการใหม่ๆตามความต้องการในพื้นที่ รวมทั้งการเพิ่มทีมแพทย์ โดยคาดว่าสร้างการเติบโตของรายได้เฉลี่ยแห่งละ 10% ต่อปี