การแข่งขันฟุตบอลศึกคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่า ลงสนามพบกับเชลซีที่เพิ่งแพ้มาในศึกพรีเมียร์ลีก ต่อแมนซิตี้ นัดนี้แชมป์เก่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้กำลังฟอร์มสดเหลือเกินแถมยังเพิ่งถล่มเชลซีคู่แข่งไม่ไว้หน้าในเกมพรีเมียร์ลีกอีกต่างหาก โดยเป๊ป กวาร์ดิโอล่าจัดชุดใหญ่นำทัพมาโดยเซร์คิโอ อเกวโร่ในแดนหน้ามีราฮีม สเตอร์ลิ่งกับแบร์นาร์โด้ ซิลวาคอยทำเกมริมเส้น เควิน เดอ บรอยน์ยืนจอมทัพกับดาบิด ซิลบาในแดนกลาง ด้านเมาริซิโอ ซาร์รี่นัดนี้จัดตัวขัดใจนิดหน่อยวางเอแด็น อาซาร์เป็นหน้าเป้าโดยมีเปโดรกับวิลเลี่ยนคอยขนาบข้าง แดนกลางรอสส์ บาร์คลี่ย์เบียดมาเตโอ โควาซิชลงมาได้ส่วนเอเมอร์สันประจำการแบ็คซ้าย เริ่มเกมทั้ง 2 ทีมเปิดเกมแลกกันอย่างดุเดือด แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ดีพบ ทำให้ครบ 90 นาทีจึงเสมอกันไป 0-0 ทำให้ต้องไปสู้กันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสใกล้เคียงกันแต่ไม่สามารถทำอะไรได้และมีช่วงสุดท้ายก่อนหมดเวลาในช่วงทดเจ็บของช่วงเอ็กซ์ตราไทม์ เชลซี พยายามจะเปลี่ยนเอา วิลลี กาบาเยโร ลงไปเซฟจุดโทษแทน เกปา อาร์ริซาบาลากา แต่นายทวารชาวสแปนิช กลับไม่ยอมออกจากสนามทำให้ เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือ สิงห์สำอาง หัวเสียเป็นอย่างมากก่อนจะจำใจยอมให้เจ้าตัวอยู่ในสนามต่อไป จากการดวจุดโทษเป็น ทีม"เรือใบสีฟ้า" ที่แม่นเป้าอาชนะ เชลซี ไปได้ 4-3 คว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 6 และเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ในรอบ 6 ปีหลังสุด.