เวทียาง 3 ชาติ ไทย-อินโด-มาเลย์ จ่อลดส่งออกยาง 2-3 แสนตัน ดันราคาตลาดโลก พร้อมตั้งสภาการยางแห่งอาเซียน เพิ่มใช้ยางในประเทศ ลดพื้นที่ปลูก เปลี่ยนปลูกพืชอื่น รับมือภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ทั้งสงครามการค้า ราคาน้ำมัน เมื่อวันที่ 22 ก.พ.62 นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย H.E. Darmin Nasution รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานกิจการเศรษฐกิจสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และ H.E Teresa Kok Suh Sim รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานของมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัฐบาลประเทศสมาชิก ร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีไตรภาคียางระหว่างประเทศ (ITRC) สมัยพิเศษ ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การประชุมร่วม 3 ประเทศ คือไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ได้หารือถึงมาตรการแก้ปัญหาราคายาง 5 มาตรการเพื่อทำให้ราคามีเสถียรภาพ โดยได้ข้อยุติร่วมกันที่จะจัดตั้งคณะกรรมการอาวุโส ขึ้นมาโดยเฉพาะในมาตรการจำกัดยางส่งออก จำนวน 2-3 แสนตัน ส่วนระยะเวลาช่วงใด คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิก จะประชุมวันที่4 เดือนมีนาคมนี้ ที่จ.สงขลา พร้อมกันนี้ 3ประเทศได้เห็นตรงกันหาวิธีการเพิ่มการใช้ยางแต่ละประเทศ ส่วนไทย ได้ยกตัวอย่างการทำถนนพาราซอยซีเมนท์ ได้เริ่มทำถนนในท้องถิ่นแล้ว20% และเดือนนี้จะเดินหน้าทำทุกชุมชน เพราะได้ผ่านความเห็นชอบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งจะดึงปริมาณยาง ออกจากตลาดได้กว่า1 ล้านตัน รวมทั้งที่ประชุมวันนี้ เห็นด้วยและมีมาตรการพร้อมกัน ที่จะกำหนดราคายางขั้นต่ำโดยเกษตรกรแต่ละประเทศอยู่ได้ไม่ขาดทุน และมาตรการเกี่ยวกับการลดพื้นที่ปลูกยางไปสู่พืชอื่น จะลดลงพร้อมๆกัน ในคราวเดียวกัน ทำให้ราคายางมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ได้ตกลง จัดทำตลาดยางพาราในระดับภูมิภาคร่วมกันเป็นตลาดกลางของ3ประเทศ และตั้งสภาการยางแห่งอาเซียน เพื่อเป็นเวทีให้3ประเทศ ได้คิดริเริ่มนวตกรรมใหม่ แปรรูปยาพารา ค้นคว้าวิจัย “วันที่ 4 มี.ค.62 จะหารือในเรื่องสัดส่วนจำกัดยางส่งออกแต่ละประเทศ ซึ่งวันนี้ยังไม่มีการตกลงที่จะลดทันที โดยก่อนหน้านี้ประเทศอินโดนีเซีย ได้เสนอไทย ให้ร่วมมือลดส่งออก มีผลทำให้ราคายางขยับขึ้น รวมทั้งรัฐบาลไทย เร่งส่งเสริมนำยางไปทำถนนด้วย ทำราคาขึ้นมากว่า40-50บาท ทั้งนี้สัดส่วนว่าประเทศใดลดส่งออกเท่าไหร่ จะนำเอาประสบการณ์จากปีที่แล้วมาพูดคุยกัน โดย3ประเทศ ผลิตยาง 6-7ล้านตันต่อปีเมื่อปีที่แล้วผมโดนต่อว่าพอมาเป็นรมว.เกษตรฯมาถึงก็เซ็นลดส่งออกทันที ยางก็ยังไม่ขึ้นมาก ดังนั้นปีนี้จึงเตรียมล่วงหน้าวางมาตรการรอบด้าน ยืนยันว่าการหารือในเวทีไตรภาคียาง ผมจะนำไปทำให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกร อย่างเป็นรูปธรรม โดยยังมีความกังวล ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และราคาน้ำมัน จึงทำให้เราได้มาประชุมรับมือกัน คาดหวังว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่เห็นตรงกันในเรื่องเปลี่ยนแปลงลดพื้นที่ปลูกยาง ไปปลูกพืชอื่น”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว