ชมรมแม่บ้านพช.หนุนขยายผลขับเคลื่อน โครงการ“ครอบครัวมหาดไทย ห่วงใยสิ่งแวดล้อม” พร้อมรณรงค์ใช้วัสดุธรรมชาติ การใช้หลอดไฟฟ้าแบบประหยัด หลีกเลี่ยงใช้โฟม-ถุงพลาสติก เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่กรมพัฒนาชุมชน นางณัสรี จันทร์สมวงศ์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ว่าสำหรับการประชุมในวันนี้ เป็นการหารือการจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ความรู้โครงการ “ครอบครัวมหาดไทย ห่วงใยสิ่งแวดล้อม” ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยที่จะดำเนินการในปี 2562 เพื่อรณรงค์การลดปริมาณขยะ โดยการนำหลัก 3 R มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการขยะ ซึ่งเริ่มต้นจากตัวเองและครอบครัว ทั้งการลดการใช้ (Reduce) ซึ่งเป็นการใช้ตามความจำเป็น รณรงค์ใช้วัสดุธรรมชาติ การใช้หลอดไฟฟ้าแบบประหยัดและหลีกเลี่ยงการใช้โฟม/ถุงพลาสติก การนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ที่เน้นการคัดแยกขยะในครัวเรือน รวมไปถึงการดำเนินการตามนโยบาย “ที่ว่างสร้างอาหาร” ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่ว่างบริเวณบ้าน ในการจัดทำถังขยะอินทรีย์หรือขยะเปียกครัวเรือน เพื่อทำเป็นปุ๋ยหมักนำกลับมาใช้กับแปลงผักผลไม้ในครัวเรือน นางณัสรี กล่าวต่อว่า เพื่อให้การดำเนินโครงการ “ครอบครัวมหาดไทย ห่วงใยสิ่งแวดล้อม” เกิดประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุดตามแนวทางศาสตร์พระราชา คณะกรรมการอำนวยการชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชนจึงได้จัดประชุมเพื่อกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงหารือเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ความรู้โครงการฯ โดยการประชุมครั้งนี้ได้มีการนำเสนอกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ฯ ที่มีความหลากหลาย อาทิ กิจกรรมเพื่อสร้างความสุขในครอบครัว พช. /กิจกรรมหารายได้เพื่อเป็นทุนในการดำเนินกิจกรรม สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดขยายผลให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการลงไปร่วมตรวจติดตามผลการดำเนินโครงการฯ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรีและจังหวัดนครสวรรค์ รวมไปถึงการจัดทำ Infographic “พช. ชวนทิ้งให้ถูกถัง” และ “พช. ร่วมลดใช้ถุงพลาสติก” เผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Infographic จะเป็นอีกหนึ่งสื่อที่จะช่วยกระตุ้นเตือนพี่น้องประชาชนในการจัดการขยะในครัวเรือนอย่างถูกวิธี เกิดการขยายผลวิธีการบริหารจัดการขยะสู่ชุมชน ส่งผลให้ชุมชนสะอาดและประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป