เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งถึงความกังวลใจของประชาชนในพื้นที่ หมู่ 8 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ รวมทั้งประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง หลังจากชาวบ้านได้พบหนังสือสั่งการจากที่ว่าการอำเภอศรีเชียงใหม่ เรื่องให้จัดทำประชาคมการขออนุญาตดูดทรายตามความในมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ส่งถึง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.บ้านหม้อโดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่าอำเภอศรีเชียงใหม่ ได้รับคำขออนุญาตดูดทรายตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ของเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งขออนุญาตดูดทรายบริเวณ บ้านหม้อ หมู่ 8 ตามคำขอที่ 89/2562 ลงวันที่ 14 ก.พ. 2562 ลงชื่อในหนังสือโดยนายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ ภายหลังที่ชาวบ้านได้พบหนังสือดังกล่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำประชาคมในวงกว้างว่าที่ผ่านมาการทำประชาคมในพื้นที่ได้ทำถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ เหตุใดทางอำเภอถึงไม่ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน รวมทั้งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจสภาพแวดล้อม สิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน เหตุใดถึงรวบรัดจัดทำประชาคมอีก สรุปที่ผ่านมาเป็นการประชาคมที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบยังพบอีกว่า นางหนูแดง วิริยะ ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการทำประชาคมขออนุญาตดูดทราย ได้ทำหนังสือส่งถึงนายอำเภอศรีเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 เกี่ยวกับการทำประชาคมที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.บ้านหม้อ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนเมษายน 2561 ของ เอกชน 2 ราย พร้อมแนบรายชื่อผู้ที่คัดค้านไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตดูดทรายในพื้นที่ แต่จนถึงขณะนี้กลับไม่มีการดำเนินการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกับเร่งรัดให้มีการประชาคม เหมือนเอื้อประโยชน์ให้นายทุนโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า การทำประชาคม 2 ครั้งที่ผ่านมา ชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามีการประชาคม จนกระทั่งครั้งล่าสุดเมื่อชาวบ้านทราบจึงรวมตัวคัดค้านเต็มที่ และอยากให้ตรวจสอบการทำประชาคม 2 ครั้งที่ผ่านมาว่ามีการทำประชาคมที่ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ เหตุใดจึงไม่สนเสียงทักท้วงของประชาชน ทั้งนี้เมื่อ วันที่ 11 ก.พ. 2562 ผู้สื่อข่าวได้ลงตรวจสอบสถานที่ดูดทรายพื้นที่ หมู่ 8 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย หลังจากก่อนหน้านี้มีการทำประชาคมหมู่บ้านและชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นชอบให้มีการดูดทรายไปแล้วจำนวน 2 ท่าทราย และล่าสุด การทำประชาคมหมู่บ้าน หมู่ 8 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เพื่อขอดูดทรายแก่ผู้ประกอบการรายหนึ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ไม่สามารถดำเนินต่อได้ เนื่องจากมีชาวบ้านบางส่วนที่คัดค้านเนื่องจากกลัวผลกระทบในหลายด้านที่จะตามมา จำเป็นต้องหยุดการประชาคม โดยชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นด้วยอยากให้มีท่าทรายในพื้นที่ แต่เสียงส่วนน้อยกลัวผลกระทบที่จะตามมาในหลายด้าน และได้มีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน โดยจากการตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียดพบว่ามีผู้ประกอบการรายหนึ่งได้นำป้ายมาติดตั้งเพื่อให้ทราบถึงจุดดูดทรายแล้ว ซึ่งระหว่างที่ผู้สื่อข่าวสำรวจบริเวณดังกล่าวได้มีเกษตรกรที่ปลูกพริกอยู่รอบบริเวณดังกล่าวเข้ามาสอบถามพร้อมบอกผู้สื่อข่าวถึงความกังวลใจหากมีการอนุญาตให้ดูดทรายในพื้นที่ เกษตรกรชาวสวนพริกบอกว่า หากมีการดูดทรายจะส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถทำการเกษตรได้เหมือนเดิม ไม่รวมปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านต่างๆ รวมทั้งสถานที่ดูดทรายห่างจากวัดอรัญบรรพต (วัดหลวงปู่เหรียญ) เพียง 200 เมตรเท่านั้น ซึ่งต้องได้รับผลกระทบเรื่องเสียงอย่างแน่นอน ขนาดเรือดูดทรายที่ สปป.ลาว เสียงยังดังมาถึงฝั่งประเทศไทย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบให้รอบด้าน ด้านชาวบ้านในพื้นที่บอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ผลกระทบที่จะเกิดหากมีท่าทรายเช่น ปัญหาตลิ่งแม่น้ำโขงพัง, อาชีพการเกษตรในแม่น้ำโขงหายไป, อาชีพประมง หรือการไหลเรือหาปลาแบบท้องถิ่นทำไม่ได้ เพราะปลาย้ายถิ่นอาศัย, เกิดปัญญาฝุ่นควันจากรถบรรทุกทราย ซึ่งหากไม่มีการกวดขันหรือบริหารจัดการที่ดี โดยชาวบ้านยังบอกอีกว่า สิ่งที่ท่าทรายให้กับชุมชนไม่ว่าจะเป็นทรายฟรีให้วัด โรงเรียน หรือชาวบ้านนำรถไปขนได้แบบฟรีๆ เมื่อมองถึงผลกระทบในระยะยาวกับสิ่งที่ชุมชน จะได้รับผลกระทบในหลายด้านมันไม่คุ้ม โดยที่ผ่านมามีการทำประชาคมขออนุญาตดูดทรายผ่านไปแล้วจำนวน 2 ท่าทราย โดยที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจริงๆไม่มีสิทธิแสดงความคิดเห็นคัดค้านเลย ชาวบ้านอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนักวิชาการ ลงมาให้ความรู้กับชาวบ้านถึงผลกระทบในด้านต่างๆ ทั้งในชุมชนสถานที่ตั้งท่าทรายและชุมชนที่อยู่รอบบริเวณใกล้เคียง เพราะเมื่อมีการดูดทรายผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทุกชุมชนจะได้รับผลกระทบไม่ทางตรงก็ทางอ้อม จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาให้ความรู้ชาวบ้านให้รู้ถึงผลกระทบด้านต่างๆเพื่อประกอบการทำประชาคมหมู่บ้าน รวมทั้งการตรวจสอบขั้นตอนการทำประชาคมที่กำลังดำเนินการอยู่ และที่ดำเนินการไปแล้วว่ามีความถูกต้อง ได้ศึกษาผลกระทบในด้านต่างๆดีแล้วหรือยัง รับฟังเสียงของชาวบ้านอย่างรอบด้านแล้วหรือยัง และมีการศึกษาผลกระทบด้านต่างๆดีพอแล้วหรือยัง และการทำประชาคมมีความโปร่งใสแค่ไหน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมารับรู้ปัญหาของชาวบ้านในพื้นที่ เพราะการทำท่าทรายที่ผ่านมา เมื่อทำประชาคมผ่านแล้ว บรรดาท่าทรายต่างๆก็อ้างความชอบธรรมตรงนี้ดำเนินกิจการ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อหลายชุมชนในจังหวัดหนองคาย จากการตรวจสอบเชิงลึกของสื่อมวลชนพบว่า การทำประชาคมกรณีการดูดทรายตามแม่น้ำโขง ในพื้นที่ หมู่ 8 ต.บ้านหม้อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ลงมาให้ความรู้กับชาวบ้านเลยถึงผลกระทบด้านต่างๆ รวมทั้งการมาให้คำแนะนำชาวบ้าน ให้ความรู้ชาวบ้านเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนทำประชาคมหมู่บ้าน ทั้งๆที่การดูดทรายในแม่น้ำโขง ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในหลายด้าน และหลายชุมชนไม่เฉพาะชุมชนที่ทำประชาคมเท่านั้น โดยชาวบ้านได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าหากมีการดำเนินการประชาคมไม่โปร่งใส และมีการอนุญาตจริง ชาวบ้านจะดำเนินการคัดค้านถึงที่สุด ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัด รวมไปถึงการเดินทางไปร้องต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป เพราะการดูดทรายเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนอย่างแน่นอน.