จากกรณีพนักงานสอบสวน สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เรียกพระระดับสูงวัดพระธรรมกาย 5 รูป ประกอบด้วย 1.พระราชภาวนาจารย์ หรือพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 2.พระถวัลย์ศักดิ์ ยติสักโก รอง ผอ.สำนักพัฒนาทรัพยากร วัดพระธรรมกาย 3.พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 4.พระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ มุนิสโก ผอ.รสำนักองค์ประธาน วัดพระธรรมกาย และ5.พระสุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เข้าสอบปากคำประเด็นที่ พนักงานอัยการสำนักคดีพิเศษสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเรื่อง การบริหารงานและการเงินภายในวัดพระธรรมกาย เพื่อนำไปประกอบการสอบสวนคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งมีพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เป็นผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร เมื่อเวลา 16.30 น วันที่ 2 ส.ค. พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีฟอกเงิน เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ภูวเดช วณิชโยบล รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีกับพระมหาบุญชัย จารุทัตโต ผอ.ฝ่ายการเงินและบัญชีวัดธรรมกาย ผู้รับผิดชอบด้านการเงินของวัด ซึ่งมีอำนาจสั่งจ่ายเช็ค ข้อหาขัดหมายเรียก ด้าน พ.ต.ท.ปกรณ์ เผยว่า พนักงานอัยการ ได้ให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมในเรื่องเส้นทางการเงิน และการบริหารวัดพระธรรมกาย ก่อนส่งสำนวนในวันที่ 11 ส.ค.นี้อีก หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ออกหมายเรียกพระสงฆ์ระดับสูงวัดพระธรรมกาย 5 รูป เข้าให้ปากคำ ซึ่งก่อนหน้านี้พระมหาบุญชัยได้เลื่อนนัดมา 2 ครั้งแล้วอ้างว่าติดศาสนกิจสงฆ์ และนัดครั้งที่ 3 วันที่ 2 ส.ค.นี้ ท่านก็แจ้งมาอีกว่า ไม่พร้อมเข้าให้ปากคำเนื่องจากเอกสารที่ต้องเตรียมชี้แจงมีจำนวนมาก จึงไม่สามารถเตรียมการทัน ขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 19 ส.ค.แทน "พนักงานสอบสวนจึงหารือร่วมกับพนักงานอัยการ และที่ปรึกษาคดีพิเศษ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการประวิงเวลา และไม่ให้ความร่วมมือในการาสอบสวน โดยมีมติให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีกับพระบุญชัยในข้อหาขัดหมายเรียก นอกจากนี้ วันที่ 4 ส.ค.นี้ เป็นวันที่พนักงานสอบสวนเรียก พระสุธรรม สุธรรมโม เข้าให้ปากคำที่ดีเอสไอ เพื่อชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงินของพระธัมมชโมต่อไป" พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าว