การต่อสู้ในสนามการเมือง เพื่อช่วงชิงเอาชัยในการเลือกตั้งรอบนี้ ที่ว่ายากเย็น แสนเข็ญกันถ้วนหน้า ทั้งพรรคเล็ก พรรคใหญ่ หรือแม้แต่ “แชมป์เก่า” กลับต้องมาเผชิญกับสงครามข่าว ปฏิบัติการไอโอจาก “มือมืด” ที่ยังคงปล่อยข่าว ปลุกเร้าให้ผู้คนในสังคมเกิดความตื่นตระหนกว่า การเลือกตั้ง จะยังเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ในวันที่ 24 มี.ค. ควบคู่ไปกับการจุดพลุเรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร ในคราวเดียวกัน ! เวลานี้ หากมองไปยังขั้วการเมืองในมือ “ทักษิณ ชินวัตร”อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเจ้าของพรรคตระกูลเพื่อ ทั้ง “เพื่อไทย-เพื่อชาติ” และ ไทยรักษาชาติ อีกทั้งยังมีพรรคเครือข่าย อย่างพรรคประชาชาติ และพรรคเสรีรวมไทย ที่ทำให้ทักษิณ วาดความหวังว่าแผนการรบกับ “ขั้ว คสช.” ของ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ผสมผสานทั้งกลยุทธ์ การแตกแบงค์พันให้เป็นแบงค์ร้อยเช่นนี้ โอกาสชนะย่อมมีมากกว่าอย่างเห็นๆ แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า เอาท์ ออฟ คอนโทรล เพราะวันนี้พรรคไทยรักษาชาติ กำลังตกที่นั่งลำบาก โอกาสเป็นกับตาย มีพอๆกัน ชะตากรรมของไทยรักษาชาติ กำลังรอการพิพากษาจาก “ศาลรัฐธรรมนูญ” หลังวันที่ 27 ก.พ.เป็นต้นไป ล่าสุดยังเกิดปัญหา “ศึกใน” ขึ้นที่พรรคเพื่อชาติ เมื่อ “ขุนศึก”ทั้ง “จตุพร พรหมพันธุ์” และ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” แกนนำคนสำคัญ ที่ไม่สามารถลงสนามเลือกตั้งได้ กำลังหันมาเปิดศึกกันเอง จนทำให้พรรคเพื่อชาติที่เป็นพรรคเล็ก แต่ก็ถือเป็น “พรรคสาขา” ที่เคยตั้งเป้า ส.ส.เขตเอาไว้ที่ 20 ที่นั่งทั่วประเทศ อยู่ในภาวะ “สะดุด” และทำท่าว่า “ยากจะไปต่อ” ยิ่งเมื่อปัญหาภายใน กำลังปะทุออกสู่สายตา “คนนอก” เมื่อล่าสุดทั้ง “พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ” และ “สฤษดิ์เดช ธนาวุฒิ” ต่างพากันยื่นหนังสือลาออกจากพรรค พร้อมทั้งระบุว่า “เนื่องจากอุดมการร์ แนวคิด และวิธีการบริหารพรรคการเมืองที่แตกต่างกัน อีกทั้งการทำกิจกรรมต่างๆของพรรคมีความสุ่มเสี่ยงขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมายรัฐธรรมนูญ และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ตลอดจนไม่เห็นด้วยกับการพิจารณาเสนอชื่อบุคคลเพื่อส่งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรค ที่เป็นไปโดยไม่ชอบต่อกฎหมาย” แน่นอนว่าปัญหาภายในพรรคเพื่อชาติ ที่เป็นพรรคขนาดเล็ก ก่อร่างสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่พักพิงของ “พี่น้องคนเสื้อแดง”เป็นส่วนใหญ่ อาจไม่ได้สร้างแรงกระเพื่อมจนถึงกับทำให้แผนการเล่นที่ทักษิณ วางเอาไว้ในหลักใหญ่ที่ พรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติ ถึงกับต้อง “เสียแผน” ก็ตาม แต่นี่คือการภาพสะท้อนที่ตอกย้ำถึงความล้มเหลวของ “กลยุทธ์แตกแบงค์พันเป็นแบงค์ร้อย” ว่าทุกอย่างล้วนผิดแผนไปทั้งหมด พรรคไทยรักษาชาติ กำลังระลุ้นชะตากรรมของตัวเอง ด้วยใจระทึก ขณะที่พรรคเพื่อชาติ เกิดปัญหาภายในจนแกนนำแตกออกเป็นเสี่ยงๆ อีกทั้งมีรายงานว่า จากปัญหาการจัดลำดับบัญชีรายชื่อ โดย “คนไม่กี่คน” กำลังจะทำให้ ทั้งคนและทุนของพรรคเพื่อชาติ ขยับกันไม่ออก เพราะไหนจะต้องหันมาเปิดศึกกันเอง ขณะเดียวกัน “น้ำเลี้ยง” ก็ยังไม่ถูกส่งออกไป แต่เชื่อเถอะว่า นาทีนี้ทักษิณ ยังไม่คิดแก้ไข ปัญหาภายในพรรคเพื่อชาติ เพราะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก เพราะนาทีนี้ ต่างพากันเงี่ยหูรอฟังคำพิพากษาจากศาลรัฐธรรมนูญ ในคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ ด้วยใจจดจ่อ !