ALLA ปลื้มงบปี61 กำไรโต 28%ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น​ ยอดออเดอร์พุ่งหนุนมูลค่างานในมือแตะระดับ 459ลบ.ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% ประกาศจ่ายปันผล 0.08 บาทต่อหุ้น ALLA เป็นปลื้ม เปิดงบปี61 มีกำไรสุทธิ 73.80 ล้านบาท โตพรวด 28% ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รับผลพวงจากงานช่องโหลดสินค้า ประตูอุตสาหกรรม งานเครนและรอกไฟฟ้า มีความต้องการสูงหนุนรายได้โต ดันBacklog แตะระดับ 459 ล้านบาท ประกอบกับคุมต้นทุนได้ดี หนุนอัตรากำไรสุทธิพุ่งขึ้นแตะ 11% พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลคืนกำไรให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็น Dividend Yield ระดับ 5% ตั้งเป้ารายได้ปี 2562 โตในช่วง 10-15% นายองอาจ ปัณฑุยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล่า จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯสำหรับงวดปี 2561 ว่า ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร โดยในงวดปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 677.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปีก่อนหน้า 56 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 9% และมีกำไรสุทธิ 73.80 ล้านบาท เติบโต 28% จากปีก่อนหน้า ที่มีกำไรสุทธิ 57.55 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการทำสถิติสูงสุด เนื่องจากบริษัทฯ ส่งมอบงานช่องโหลดสินค้า ประตูอุตสาหกรรม รวมถึงงานเครนและรอกไฟฟ้าตามความต้องการลูกค้าที่มากขึ้น จนสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี เป็นผลให้อัตรากำไรสุทธิแตะระดับ 11% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 9% คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจัดสรรเงินจำนวน 48 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2561 ให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท เป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 6 พฤษภาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 5% “ความต้องการในส่วนของงานเครนและรอกไฟฟ้า รวมไปถึงงานช่องโหลดสินค้าและประตูอุตสาหกรรม มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนมูลค่างานในมือที่รอการส่งมอบ(Backlog)ณ สิ้นปี 2561 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 459 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 52% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน ซึ่งทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเช่นกัน สะท้อนให้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดี”นายองอาจกล่าว บริษัทฯได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2562 อยู่ในช่วง 10-15% โดยประเมินว่าความต้องการของอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุในโรงงานอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็น เครนและรอกไฟฟ้า ช่องโหลดสินค้าและประตูอุตสาหกรรม จะยังมีความต้องการต่อเนื่องมาจากปี 2561 โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร พบว่าเริ่มขยายโรงงานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯจะเดินหน้าเข้าประมูลงานระบบจัดการคลังสินค้า (Warehouse System) เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิไม่ให้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา