เมื่อวันที่ 13 ก.พ.62 เวลา 10.30 น. ที่หน้าสภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว 1.นาย ชัยยุทธ หรือ นะ หมวกแก้ว อายุ 37 ปี ที่อยู่ 550/4 ม. ต.สิชล อ.อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 2. นายศราวุธ หรือโต้ อุดมภักดี อายุ 35 ปี ที่อยู่ 27/17 ถ.วัฒนานุวงศ์ ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี 3. น.ส.วิมลพร หรือ แอน ขุนทอง อายุ 45 ปี ที่อยู่ 164 ม.2 ต.สร้างแป็น อ.เมืองอุดรธานี พร้อมของกลาง เป็นทีวีจอแบนยี่ห้อต่างๆ 5 เครื่อง คอมพิวเคอร์โน้ตยุกส์ 2 เครื่อง อุปกรณ์งัดแงะเป็นประแจเลื่อน 1 ตัว ไขควง 1 เล่ม รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิ๊ก สีดำ-แดง ทะเบียน กง- 35 อุดรธานี 1 คัน ที่ใช้ในการก่อเหตุ ในข้อหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน ร่วมกันทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุจากประชาชนว่า มีเหตุคนร้ายทำการงัดแงะบ้านลักทรัพย์ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ หลายครั้ง โดยพฤติการณ์ของคนร้ายจะใช้เวลากลางวันทำการก่อเหตุ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เจ้าของบ้านออกไปทำธุรกิจนอกบ้าน หรือไปทำงาน สร้างความเดือดร้อน ได้ทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก ทาง พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามอา๙ญากรรม เร่งออกทำการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎฆมายเด็ดขาด ซึ่งจากการที่ตำรวจทุกหน่วยงานออกทำการติดตามสอบสวน สถานที่เกิดเหตุและทำการครวจหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่มี พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ในการก่อเหตุ จนได้หลักฐานทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุว่า ได้ไปเช่าบ้านอยู่ในซอยบ้านห้วย 2 เขตเทศบาลนครอุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางสายเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ในบริเวณใกล้เคียง จนกระทั้งได้พบชาย+หญิง สองคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า จลิ๊ก คันที่ปรากฏอยู่ในภาพวงจรปิดเข้ามาที่ปากซอยบ้านห้วย 2ฯ ดังกล่าว จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการสอบถาม ตรวจค้น และทราบชื่อว่า นายชัยยุทธฯและ น.ส.วิมลพรฯ ซึ่งสามี+ภรรยากัน เช่าห้องพักอยู่ที่หอพักอรทัย ห้องเลขที่ 107ฯ ซึ่งตั้งอยู่ในวอบบ้านห้วย 2 ดังกล่าว จึงเชิญตัวไปทำการสอบปากคำบุคคลทั้ง 2 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งจากเจ้าหน้าที่นำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐาน พบว่าคนทั้งสองมีตำหริรูปพรรณตรงกันภาพฟลักฐานในกล้องวงจรปิด ซึ่งในการสอบปากคำ นายชัยยุทธฯให้การรับสารภาพว่าบุคคลที่อยู่ในกล้องวงจรปิด เป็นคนเดียวกันตนจริง และให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุงัดแงะบ้านพัก หอพัก ที่อยู่อาศัยชาวบ้านจริง โดยจะถือโอกาสในช่วงเวลากลางวันที่เจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน โดยร่วมกับ นายศราวุธ หรือ โต้ อุดมภักดี ลงมือก่อเหตุ เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้ว ก็จะให้ น.ส.วิมลพรฯ เมียของนายชัยยุทธฯ นำเอาไปจำนำตามร้านรับจำนำต่างๆในเขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนของ น.ส.วิมลพรฯ นอกจากนี้แล้ว นายชัยยุทธฯและ นายศราวุธฯ ยังให้การรับสารภาพอีกว่า ได้ร่วมกันตระเวนไปงัดแงะบ้านและลักทรัพย์มาแล้วเกือบ 10 ครั้ง และโดยเฉพาะนายชัยยุทธฯ เคยถูกจำคกในข้อหาว่าลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง คือที่จัฃหวัดเลยจำคุก 2 ปี 6 เดือน และที่จังหวัดหนองคาย 2 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนกรกฏาคม 2561 และได้มาเหตุติดต่อกันเกือบครั้งดังกล่าว.