ประโครมข่าวกันใหญ่โตน่าเร้าใจสุดๆกับการแก้ปัญหาฝุ่น 2.5 ด้วยการนำเครื่องบินฝึกขนาดเล็กมาทำการดัดแปลงติดถังบรรจุน้ำขนาด 150 กิโลกรัม แล้วทำการบินพ่นน้ำเป็นละอองขนาดเล็กเหนือกรุงเทพเพื่อช่วยแก้ปัญหาวิกฤติในครั้งนี้ หลังจากปฏิบัติการดังกล่าว ก็มีการออกข่าวกันเป็นระยะๆว่าการบินพ่นน้ำโดยเครื่องขนาดเล็กนั้นลดมลภาวะได้จริง ? ในเวลาวิกฤติเช่นนี้ การร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาเป็นเรื่องที่น่ายินดีและจำเป็นต้องมี แต่หากการร่วมแก้ไขนั้นทำไปโดยขาดองค์ความรู้อย่างรอบด้านก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ที่สำคัญอาจจะกลายเป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อให้กับคนบางกลุ่มได้ ยิ่งภายใต้ยุคของข้อมูลข่าวสารครองโลก การใช้ความคาดหวังของคนในสังคมมาเป็นเหยื่อเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังกันอย่างยิ่ง ข้อสังเกตที่อยากได้คำตอบจากผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร สำนักการบินพลเรือน กรมควบคุมมลพิษและสิ่งแวดล้อม รวมถึงโรงเรียนการบินที่เสนอตัวนำเครื่องขึ้นบินคือ การนำเครื่องขึ้นไปบินพ่นละอองน้ำเล็กๆที่ความสูงขนาดนั้น ช่วยลดมลภาวะที่เกิดจากฝุ่น 2.5 ได้จริงหรือ? ฝุ่นระดับ 2.5 นั้นเกิดจากอะไร ลอยสูงจากพื้นเท่าใด การบินพ่นละอองน้ำขนาดเล็กโดยใช้หัวพ่นน้ำที่ความสูงประมาณ 1000 ฟุต ความชื้นที่ได้จากละอองน้ำจำนวน 150 กิโลกรัม ช่วยลดปริมาณฝุ่น 2.5 ได้อย่างน่าอัศจรรย์ตามที่เป็นข่าวได้จริงหรือ ที่ความสูงขนาดนั้นภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนเกือบ 40 องศาของบ้านเรา มันเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่ละอองน้ำที่พ่นออกมาจะเหลือความชื้นมากพอที่จะลอยลงมาเกาะฝุ่น2.5 ที่ลอยเหนือพื้นไม่สูงมากนัก การใช้น้ำฉีดจากตึกสูงต่างๆด้วยปริมาณน้ำมากกว่าถังน้ำขนาด 150 กิโลกรัมที่ติดไปบนเครื่องบินจะได้ผลมากกว่าหรือไม่ คงต้องรบกวนนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญที่มีอยู่ในสังคมช่วยกันออกมาให้ความเห็นและข้อเสนอแนะอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ มิฉะนั้นการแก้วิกฤติครั้งนี้จะหนีไม่พ้นวังวนเดิมๆของสังคมไทยคือแก้ปัญหาโดยขาดองค์ความรู้สุดท้ายวิกฤติก็จะกลายเป็นโอกาสของคนบางกลุ่มแทน เขียนโดย:สายฟ้า