เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งจากนางบุญเมือง นาชัยเวช อายุ 65 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 2 บ้านป่าไม้งาม ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ได้แจ้งมาที่ ร.อ.จีระศักดิ์ สำราญพัฒน์ ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยหนองบัวลำภู และสื่อมวลชน ว่าน้องชายคือนายอำคา ดงพงศ์ อายุ 40 ปี อยู่ที่ 61 หมู่ที่ 2 ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ได้มีนายหน้าเปิดร้านขายของชําในหมู่บ้าน มาชักชวนให้ไปรับจ้างเป็นผู้ต้องหาติดคุกแทน ในคดีขับรถอ้อยบรรทุกเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยตกลงจะให้เงินเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท ตนพึ่งทราบเรื่องและไม่อยากให้น้องชายติดคุกจึงได้เดินทางเข้ามาแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดหนองบัวลำภู และสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือในเรื่องคดี และได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบแล้ว หลังจากนั้นสื่อมวลชนได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบนางบุญเมือง นาชัยเวช พร้อมกับญาติและน้องชายคือนายอำคา ดงพงศ์ อายุ 40 ปี ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เวลาทำงานได้เงินมาก็จะชอบดื่มสุราอยู่เป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งได้ไปนั่งดื่มสุราในร้านขายของชำกลางหมู่บ้าน ต่อมาได้มีเจ้าของร้านขายของชำ ชื่อ อ.นามสมมุติ ได้เอ่ยปากชักชวนตนว่า อยากมีเงินใช้ไหม จะพาไปรับเป็นผู้ต้องหาในคดีขับรถบรรทุกอ้อยน้ำหนักเกิน ติดคุก 45 วันโดยมีค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท โดยจะต้องโดนหักค่านายหน้าเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท และจะได้เงินรับจริง 27,000 บาท ตนเองจึงได้รับปากเพราะไม่มีเงิน ด้วยอารมณ์ชั่ววูบอยู่ในอาการมึนเมาสุรา และในวันต่อมาวันที่ 25 มกราคม 2562 นายหน้าร้านขายของชำและมีชายอีก 1 คน ไม่ทราบชื่อได้พาตนเองเดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรศรีบุญเรือง โดยนั่งต่อหน้าพนักงานสอบสวนยศร้อยตำรวจเอก โดยได้สอบปากคำตนเองโดยเนื้อหาระบุว่าเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2562 ตนเองได้ขับรถบรรทุกอ้อยบรรทุกน้ำหนักเกินมาโดนจับกุมที่ ตำบลศรีบุญเรืองอำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู บรรทุกอ้อยมาเต็มคันรถ จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านชั่งน้ำหนัก จับกุม และตนเองได้วิ่งหลบหนีไป จากนั้นสำนึกผิดจึงเดินทางเข้ามามอบตัวที่ สภ.ศรีบุญเรือง จากนั้นตนเองจึงได้เซ็นชื่อรับว่าเป็นผู้ต้องหาในคดีเพราะต้องการอยากจะได้เงิน โดยนายหน้าได้บอกว่า ก่อนจะขึ้นศาลจะนำเงินมาให้ จนเรื่องทั้งหมดพี่สาวตนเองได้ทราบเรื่อง และมาพูดคุยกับตนเองว่าในเมื่อเราไม่ได้กระทำผิด จะไปรับเป็นผู้ต้องหาทำไมซึ่งตนเองก็ได้รับปากทำลงไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.ศรีบุญเรืองได้มอบเอกสารเป็นคำบันทึกคำให้การของผู้ต้องหา และบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาลงวันที่ 25 มกราคม 2562 และแจ้งว่าให้ตนเองเดินทางไปขึ้นศาล ในวันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ตนเองสำนึกได้จึงได้ปรึกษากับพี่สาวนำเรื่องเข้ามาร้องเรียนดังกล่าว ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป